⦁…การเมืองหลังวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ยังต้องจับตามองทางฟากฝั่งไม่เอา คสช.ว่าจะดำเนินกลยุทธ์เช่นไรถึงจะ “ชนะขาด” ฝ่ายสนับสนุน คสช.ได้ เพราะเมื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ที่มี ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เป็นหัวหน้า ซึ่งมองกันว่าแนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย กำลังตกอยู่ในอาการร่อแร่ เพราะถูกร้องยุบพรรค รอวันศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน เท่ากับกำลังผลักกำลังหนุนที่มีต่อกันก็เสียสมดุล ทุกอย่างต้องเริ่มต้นหากลยุทธ์กันใหม่
⦁…ขณะที่ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต้องแสวงหาหนทางที่พรรคฝ่ายไม่เอา คสช. กำลังชะงัก เดินเครื่องหาเสียง ทำแต้มให้มากกว่าเก่า เพราะที่ผ่านมาโดนวิจารณ์ว่า “มีแต่เงิน” อย่างอื่นๆ ยังไม่โดนใจ คำนี้ฟังแล้วเจ็บๆ คันๆ
⦁…ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่แลดูจะราบรื่น แต่เมื่อ ภักดิพร สุจริตกุล แม่ของปลื้มลูกชาย ชวน หลีกภัย โพสต์ไอจีเป็นรูปภาพ “ชวน-ปลื้ม” และข้อความ “พ่อฮะ พ่อฮะ ลูกว่าเราสองคนถูกต้มจนเปื่อย…” และข้อความ “ถูกเขาหลอกใช้ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง…” และข้อความ “เสร็จศึกชิงเจ้ายุทธจักรคราวนี้ เขาจะเอาพ่อแขวนขึ้นหิ้งไหมเนี่ย … หลังตระเวนขายชื่อพ่อไปรอบเมือง ทำอะไรก็ไม่เคยเห็นหัวพ่อ หลอกใช้ไปวันๆ” มันเกิดอะไรขึ้น??
⦁…คดีความของกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเห็นผล ล่าสุดศาลฎีกาตัดสินคดีแกนนำ “กลุ่มพันธมิตร” 6 คน ที่นำบุกทำเนียบรัฐบาลเมื่่อปี 2551 ให้จำคุกคนละ 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สรุปว่าการใช้มวลชนไปบุกสถานที่ราชการเช่นนั้นทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย” เข้าใจว่าคดีทำนองนี้ยังรอการตัดสินอีกหลายคดี เพราะแกนนำมวลชนที่ใช้วิธีการคล้ายคลึงกันในช่วงเกิดความขัดแย้งทางการเมือง 2551-2557 มีหลายกลุ่ม และดำเนินการหลายครั้ง
⦁…เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่โอดให้สื่อฟังว่า นับตั้งแต่ยึดอำนาจและบริหารประเทศมา 5 ปี ยอดคดีที่ฟ้องบิ๊กตู่พุ่งเป็น 400 คดีแล้ว เนี่ยขนาดยังมีอำนาจอยู่นะ แล้วถ้าลงจากเก้าอี้ คสช.เมื่อไหร่ ยอดคดีอาจจะ “พุ่งปรี๊ด” ขึ้นไปอีกก็ว่าได้
⦁…ข่าวลวงข่าวลือเรื่อง รัฐประหารซ้อน และคำสั่งหลอกเรื่องปลด ผบ.เหล่าทัพจนป่านนี้ยังไม่รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมจึงแพร่กระจายอย่างแรงในห้วงเวลาที่การเมืองกำลังชะงัก เรื่องนี้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ -พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ประสานเสียง เชื่อมั่นว่าไม่มี
⦁…จู่ๆ คณาจารย์ “คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี” มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 48 คนก็นัดสื่อมวลชนมาแถลง คัดค้านการใช้พื้นที่ของ “ตึกตู้ปลา” อาคารที่เรียน ณ ท่าพระจันทร์ กทม. ไปให้เอกชนทำธุรกิจ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อ้างเรื่องที่ค้าง ณ สตง. และ ป.ป.ช. ขณะที่ฝ่ายบริหารยืนยัน “ความโปร่งใส” และรับประกันว่าไม่ได้ทำเพื่อหวังกำไร แต่เพื่อความปลอดภัยลองตรวจสอบรายละเอียดกันอีกครั้งก็ดีนะ จะได้สบายใจ
นิวรอน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่