วันต้นสัปดาห์ของเดือนมีนาคม พ.ศ.2563
ประธานฝ่ายซึ่งเป็นผู้บัญชาการบริหารจัดการภัยแล้งและเตรียมการเก็บน้ำฤดูฝน ปี 2563 ได้มอบนโยบายและวัตรปฏิบัติของการแก้ปัญหาภัยแล้งแก่คณะคนสำคัญหลายอย่างหลายประเด็น
พร้อมเปิดเผยรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี ทรงห่วงใยประชาชนผ่านรัฐบาลว่า รัฐบาลจะลดผลกระทบลงอย่างไร และให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ต่อภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้น
วันกลางสัปดาห์ มีข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่งรายงานเรื่องราวน่าทึ่งของชายคนหนึ่ง ลงแรงขุดคลองด้วยมือเปล่า ยาวราว 1 กิโลเมตร ด้วยเวลานาน 17 ปี ปัจจุบันเป็นที่ทำมาหากินและเป็นประโยชน์ของชาวบ้านละแวกใกล้เคียง
วีรบุรุษนิรนามท่านนั้น คือ คุณจิระศักดิ์ มีสวน วัย 41 ปี เป็นชาวบ้าน หมู่ 2 ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยลงแรงขุดคลองด้วยมือเปล่า มีเครื่องทุ่นแรงเป็นพลั่วอันเดียว
คลองเล็กๆ กลางพรุน้อย ได้ยังชีวิตชาวบ้านให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันมาตลอด
ย้อนกลับไปเรื่องภัยแล้ง
วงการสันทัดกรณีร่วมสมัย กังขาตรงกันว่า ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยเกิดปัญหาภัยแล้งได้อย่างไร
ขณะที่ แม่ธาตุใหญ่ทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เราต่างมั่งมี มั่นคง อย่างอุดมสมบูรณ์
หรือถ้าจะเอาน้ำเป็นสรณะเบื้องแรกก่อน
น้ำก็สามารถสร้างความมั่งคั่งยั่งยืนให้แก่ประเทศนี้ได้
เราเคยคิดเป็นอาสาสมัครด้วยจิต วิญญาณ ชำระสะสาง แม่น้ำลำคลองให้สะอาดใสไหลริน เหมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำร่องอย่างแท้จริงบ้างไหม?
ลึกไปกว่านี้ เศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นความอยู่รอดแท้จริงในโลก เราก็พากันลืมเสียแล้ว
คนสำคัญที่เกี่ยวข้องด้วยเรื่องน้ำ
เคยรู้เรื่องน้ำพอกับเรื่องถนนหรือไม่?
เราจะขุดลอกห้วยหนองคลองบึงเพื่ออนาคตอันใกล้ในวันใด??
หรือให้ภัยแล้ง ระบาด อาละวาด ให้ทั่วถึงก่อน
เราจะต่อชีวิตฝายทางภาคเหนือ ขุดลอกบ่อเล็กใหญ่ในอีสาน สมานสามัคคีให้ชีวิตทุกพรุทางใต้ ขุดแต่ง บึง หนอง ที่ราบต่ำภาคกลาง
หรือปฏิรูปแหล่งน้ำเก่าใหม่ทั่วประเทศทั้งเมือง ให้มีกินมีใช้ตามธรรมชาติกันเมื่อไร?
บ่อทิ้งน้ำเสียที่ตาก, ทะเลสาบน้อยๆ ที่บุรีรัมย์, น้ำเปี่ยมคูเมืองโบราณที่อู่ทอง สุพรรณบุรี, ปฏิรูปทางน้ำที่กลางเมืองร้อยเอ็ด ตัวอย่างย่อยๆ เหล่านี้ คนสำคัญๆ ไปดูทั่วถึงหรือยัง
เห็นแล้วต้องคิด
คิดย้อนหลัง เดี๋ยวก็เดินไปข้างหน้าได้
คิดแล้วต้องลงมือทำทันที ให้ทันเวลา ทันเหตุการณ์
พูดอย่างเดียว พูดยาว พูดไม่รู้เรื่อง เปื่อยการพืด (ฮา)
