โครงร่างตำนานคน : จาตุรนต์ ฉายแสง กระตุกในมุมต่าง : โดย การ์ตอง

โครงร่างตำนานคน : จาตุรนต์ ฉายแสง กระตุกในมุมต่าง : โดย การ์ตอง

โครงร่างตำนานคน : จาตุรนต์ ฉายแสง กระตุกในมุมต่าง : โดย การ์ตอง

ท่ามกลางความโกลาหลอันเกิดจากการระบาดของโคโรนาไวรัส “โควิด-19” ที่แพร่ขยายอย่างรวดเร็วและรุนแรง กระตุ้นให้ตื่นตูมตกใจไปทั่วโลก

รัฐบาลไทยไม่ต่างกับประเทศอื่น คือ อยู่ในสภาพตั้งตัวไม่ทัน ไม่นึกไม่ฝันว่าความรุนแรงจะลามเร็วจนเกิดความสับสนในการรับมือ

จาก “ไข้หวัดธรรมดา” ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขพยายามให้นิยาม และ “เรามีหน้ากากอนามัยพอที่จะป้องกัน” ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า

Advertisement

เช่นเดียวกับการแถลงของนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาบอกว่า “เราจะชนะไปด้วยกัน” ด้วยอาการเหมือนคนไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับความเป็นไปของมนุษยชาติ

ขนาดกองทัพซึ่งควรจะไหวตัวได้เร็ว พอภัยที่เกิดขึ้นกับประเทศ ยังมะงุมมะงาหรา ปล่อยให้จัด “ศึกใหญ่” ที่ “สนามมวยลุมพินี” ส่งผลให้เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดครั้งใหญ่กระจายตามเซียนมวยไปทั่วประเทศ

การให้ความรู้เพื่อประชาชนตื่นตัวตระหนัก มาเริ่มเอาที่ “คุณหมอซึ่งรู้จักธรรมชาติไวรัส” หลายคน ทนไม่ไหว ต้องแข็งขันออกมาช่วงชิงการนำ ด้วยการเสนอข้อมูลผ่านโลกออนไลน์ให้ทุกฝ่ายรับรู้กันถึงอันตราย หากยังบริหารจัดการไม่เป็นระบบ

Advertisement

ความรู้ที่จริงกว่าก่อความตื่นตัวในหมู่ผู้มีอำนาจ ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉิน “อยู่บ้าน ช่วยชาติ”

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความโกลหลแบบใหม่

“สุขภาพนำเสรีภาพ” คือวาทกรรมผู้นำประเทศ

สุขภาพในความหมายที่ “คุณหมอ” ถือธงนำ และรัฐบาลออกมาตรการตามคือ “หยุดการระบาดให้ได้”

มี “ยอมเจ็บให้จบ” เป็นยุทธวิธี

ในภาวะเช่นนี้เองที่มีคนส่วนหนึ่งพยายามออกมาชี้ให้เห็นว่า “สุขภาพของคนส่วนใหญ่นั้น” ไม่ใช่ “พ้นจากโควิด” แต่การขาดรายได้เพราะช่องทางทำมาหากินถูกปิดกั้น ขณะที่ชีวิตปกติก็ลำบากยากเข็ญ หามื้อกินมื้ออยูู่แล้ว

“เจ็บ” ที่รัฐบาลขอให้ยอมรับ ส่งผลต่อ “สุขภาพ” ทั้งกายและใจอย่างหนักหน่วง

บางทีจะเสี่ยงยิ่งกว่า “โควิด” ที่คนกลุ่มไม่เดือดร้อนกลัวกัน

หนึ่งในนั้นมี จาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งหลังวิกฤตชีวิตทางการเมืองในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทำตัวห่างหายไปจากกิจกรรมสาธารณะพอสมควร ได้ออกมาแสดงบทบาทอย่างเข้มข้นและเป็นระบบ ด้วยความคิดที่แหลมคมในมุมที่ต่างไป

การเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจออกมาตรการรับมือโรคระบาด โดยคิดให้ทั่วถึงผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่

ไม่ใช่แค่ “คนที่พึ่งพาตัวเองได้ในเรื่องดูแลปากท้อง” ที่่ออกมาเรียกร้องให้ “ช่วยกันอยู่บ้าน เพราะกลัวจะระบาดมาถึงตัวเอง”

ในกระแส “นักรบเสื้อกาวน์” เสียงของ “จาตุรนต์” ฟังเหมือนเสียงคนที่ร้องเพลงผิดคีย์ หรือ “ดนตรีขึ้นเพลงนี้ แต่ดันไปร้องอีกเพลง”

ถ้าไม่ฟังไปส่ายหัวไป ก็ปิดหูไม่ฟัง บางคนถึงขั้นออกมาโวยวายให้หยุดแสดงออก

แต่ “จาตุรนต์” ยังคงเป็น “จาตุรนต์ที่ตัดสินใจทำอะไรแล้วมักมุ่งมั่น” ไม่ใส่ใจกับใคร ขอแค่ทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์

แล้ววันนี้ เริ่มเห็นแล้วว่า “เสียงของคนแบบจาตุรนต์นั้นไม่สูญเปล่า”

ทิศทางของรัฐบาล เริ่มออกมาในทางเยียวยาคนเดือดร้อน

คุณภาพของ “คนการเมือง” ในสนาม “มาจากการเลือกตั้ง” “จาตุรนต์” ตรึงไว้

อย่างน้อยก็ไม่ด้อยกว่า “เหล่านักการเมืองสายรอวาสนาจากการแต่งตั้ง” ซึ่งมีผ่านมาทำหน้าที่ “ฝักถั่ว สอพลอ” และวันนี้ “ไม่รู้สึกอาย” ในเสียงเรียกร้องของประชาชน

การ์ตอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image