เอาใจสายเจ – ศิรดา ศรีธงชัย ผอ.ฝ่ายการตลาดศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดแคมเปญเอาใจคนกินเจ กินเจให้สุด ปักหมุดที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ โดยมีตัวแทนพันธมิตร สุภัคนันท์ นิ่มสุนทไชยเวช, อัญชลี สุขภูตานันท์, กัลลฎา แจ้งพินิจพร, สมพงษ์ ดารา และเซเลบริตี้สายเจ คณิศร เลียวรักษ์โอฬาร, ธรินรดา พัฒนสิน ร่วมงาน ณ ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง เมื่อเร็วๆ นี้
ต้อนรับเทศกาลเจ – บมจ.สยามแม็คโคร โดย ศิริพร เดชสิงห์ รอง ปธ.จนท.บห. สายงานการสื่อสารองค์กร และ ภควัฏ ฉินทกานันท์ ผจก.อาวุโสสินค้ากลุ่มอาหารสด ให้การต้อนรับ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดี รักษาราชการแทน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาล กินเจ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ณ แม็คโคร สาขาแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 ตุลาคม ที่แม็คโครทุกสาขาทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้
คว้ารางวัล – นิตยสารท่องเที่ยว Cond Nast Traveler ได้ประกาศผลรางวัล Readers Choice Awards ประจำปี พ.ศ.2563 โดยโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ได้รับเลือกจากผู้อ่านนิตยสารให้เป็น หนึ่งใน 10 โรงแรมที่ดีที่สุดในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปีนี้มีผู้อ่านนิตยสาร Cond Nast Traveler ทั่วโลกเข้าร่วมลงคะแนนให้กับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีที่สุดมากถึง 715,000 คน
ปรับโฉม – มาซาทากะ อิมูระ ผอ. เอเชียกรุ๊ป บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น จัดงาน KANEBO LIFE INTELLEGENCE การปรับโฉมทั้งผลิตภัณฑ์และเคาน์เตอร์ครั้งสำคัญของคาเนโบ พร้อมแนะนำ KANEBO I HOPE Unity System ON. & IN. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรูปแบบใหม่ที่มีเทคโนโลยีของการเลียนแบบกลไกตามธรรมชาติของผิว ณ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
ฉลองร้านใหม่ – รวิศรา จิราธิวัฒน์ และ อกิฮิโร่ คาโมการิ ฉลองย้ายช็อป MUJI (มูจิ) สาขาห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ สู่ชั้น 2 กับพื้นที่ใหม่มากกว่า 1,000 ตร.ม. พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะสาขา โดยมี มาซาชิ โอกะ, เศรษฐพร ก่อวาณิชกุล, ริญรภัสร์ อริยกรวิจิตร์ ร่วมงาน ที่ MUJI (มูจิ) ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เมื่อเร็วๆ นี้
เปิดสัมมนา – พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเรื่อง กฎกติกามวยไทย เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กทำงาน โดยมี พล.อ.วราห์ บุญญะสิทธิ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ ด้านการสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ณรงค์ รัตนานุกูล เลขานุการคณะกรรมาธิการ ร่วมงาน ที่ห้องบอลรูม 1
รร.ดิ เอมเมอรัลด์
แสดงความยินดี – กี่เดช อนันต์ศิริประภา ผอ.บริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ปีที่ 59 พร้อมมอบเงินบริจาคเพื่อสมทบเข้ากองทุนสวัสดิการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จำนวน 100,000 บาท โดยมี เกตสุดา สุประดิษฐ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมป๋วย อึ๊งภากรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เมื่อเร็วๆ นี้
…การเมืองเข้าสู่ ไคลแมกซ์ รัฐบาลยอมเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเปลี่ยน เกมบนถนน ไปเป็น เกมในสภา ซึ่งควบคุมได้ง่ายกว่า เพราะทั้ง กติกา และ คนกุมเกม เอื้อให้ ทว่ายังไม่แน่ว่าจะเป็นผลดี เนื่องเพราะสถานการณ์บานทะโร่ จนรัฐบาลต้องใช้ มาตรการที่เป็นจุดอ่อน มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สลายการชุมนุมอย่างรุนแรง-ประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง-จับกุมผู้คน-ปิดกั้นสื่อ เลยไปถึง จัดตั้งมวลชนขึ้นมาต่อต้าน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ ฝ่ายค้าน จะเอาไปเปิดโปง เมื่อ สภาเป็นเวทีประชาธิปไตย ทำให้ มาตรการโดยการใช้อำนาจ แบบนั้น ต้องตกเป็น จำเลย อย่าง เถียงได้ยาก
…และเมื่อ เวทีสภา เข้ามาแก้ปัญหาช้าเกินไป จนเชื่อว่า ไม่น่าจะเป็นที่พึ่งได้ เกมไม่พ้นจะต้องเล่นกันบนท้องถนน ความยุ่งยากจะเกิดขึ้น ด้วยถึงวันนี้ ม็อบที่กดดันรัฐบาล ไม่ได้มีเพียง เยาวชนคนรุ่นใหม่ แต่ยังมี ม็อบลุงป้าใส่เสื้อเหลือง
ออกมาเรียกร้องให้ใช้ ความเด็ดขาด เข้าจัดการ ซึ่งเสี่ยงต่อการ ปะทะ อย่างยิ่ง ขณะที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่ต้องรับผิดชอบคือ รัฐบาล ที่มีหน้าที่ บริหารให้เกิดความเรียบร้อย
…ขณะที่ม็อบเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในนาม คณะราษฎร 2563 ถูกเร่งโดยอัตโนมัติจากจำนวนผู้เข้าร่วมที่มากขึ้นทุกที จนยากจะควบคุม จะเห็นได้ว่าแม้จะประกาศ
พักการชุมนุม ยังเกิดการรวมตัวกันเอง เป็น ม็อบเอกเทศ แสดงพลังอยู่ทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด นอกจากนั้น เสียงที่สะท้อนผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ยังกดดันให้ จัดการชุมนุมต่อเนื่อง อันยืนยันว่าเป็นม็อบที่ ทุกคนเป็นแกนนำ ซึ่งแม้ผลดีจะอยู่ที่เป็น พลังบริสุทธิ์ไม่ขึ้นกับผลประโยชน์ของใคร มี ภารกิจเพื่ออนาคตที่ดีกว่า เป็นศูนย์รวมพลัง แต่ที่เสี่ยงคือ ควบคุมได้ยาก ทำให้อ่อนไหวต่อการรับมือ สถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
…ที่น่าห่วงกว่านั้นคือ ขณะมีการปั่นให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่าง ม็อบลุงป้าเสื้อเหลือง กับ ลูกหลานโบขาว ด้วยเชื่อว่าจะ สยบความเคลื่อนไหวได้ และเป็น ผลดีกับผู้มีอำนาจ ทว่า สถานการณ์ความรุนแรง ไม่ใช่เป็นเรื่องเลวร้ายต่อ ฝ่ายที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เสียทั้งหมด เพราะยิ่งรุนแรง ความชอบธรรม ของ ผู้มีหน้าที่บริหารประเทศ จะยิ่งหมดลงเร็วขึ้น
…มีหลายคนพยายามชี้ว่า หากเร่งสถานการณ์ให้ไปสู่การเผชิญหน้ารุนแรง ที่สุดแล้วหนีไม่พ้นที่ กองทัพ จะต้องทำ รัฐประหาร ซึ่งทำให้ การเมืองไทย จมดิ่งสู่ เผด็จการ หนักขึ้น ทว่าเสียงขู่เช่นนั้น กลับไม่มีผลต่อ ความกังวลของคนรุ่นใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น บางคนกลับมองว่าหากเกิด รัฐประหาร จะเป็นผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองให้กลับมาเป็น ประชาธิปไตย มากกว่า
…คนกลุ่มนี้มองว่า รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นที่สุดของ เผด็จการ แล้ว เพราะเอา อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มาใส่ไว้ในกฎหมายสูงสุดของประเทศ กลไกตามกฎหมายต่างๆ เพื่อต่อการสนับสนุนปกป้อง อำนาจนิยม ไม่ได้ เชื่อมโยงกับประชาชน อยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงจะทำได้ง่ายกว่าคือ ทำให้เกิดการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ วิธีที่รวบรัดที่สุดคือ โดยอำนาจของ คณะรัฐประหาร
…ในสถานการณ์ที่ เยาวชนคนรุ่นใหม่ เกิดความตื่นตัวทางการเมืองอย่างเข้มข้น
หากเกิด รัฐประหาร ขึ้นจริง มวลชนของ อำนาจนิยม จะต้องถอยกลับ และที่จะออกมาจัดการคือ กองกำลังทหาร ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อน จะเป็นเรื่องน่ากลัวกว่า แต่ถึงวันนี้ การทำงานทางความคิดทำให้ง่ายที่จะ ปลุกการไม่ยอมรับ ขึ้นมา และเมื่อสถานการณ์ถึงขั้นนั้น ไม่ว่าจะมีอำนาจแค่ไหน การควบคุมการต่อต้าน จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ชโลทร