โรงครัวปันสุข – สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน เปิดโครงการ โรงครัวปันสุข สู้ภัยโควิด-19 เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี โดยมอบอาหารกล่องปรุงสุก วันละ 1,100 กล่อง แก่บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 8-30 มิ.ย 64 ณ วัดระฆัง
โฆสิตารามมหาวรวิหาร เมื่อเร็วๆ นี้
ครบ 119 ปี – ประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน แถลงข่าวการจัดงานวันสถาปนากรมชลประทานครบรอบ 119 ปี ในรูปแบบนิทรรศการเสมือนจริง หรือ Virtual Exhibition 360 องศา ภายใต้ชื่องาน RID TEAM : สานพลังน้ำ เป็น 1 เพื่อทุกคน ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นการจัดงานนิทรรศการบนโลกออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ 119 ปีกรมชลประทาน http://119year.rid.go.th
เปิดจุดฉีดวัคซีน – นพ.ประเสริฐ ไตรรัตน์วรกุล รองกรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัครชัย พงษ์ศิริ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ร่วมเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลที่ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ณ ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา เมื่อเร็วๆ นี้
สร้างห้องความดันลบ – ประจักษ์-ละออ ตั้งคารวคุณ พร้อมด้วย ร.ท.พญ.ปิยะชนก ตั้งคารวคุณ มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท ให้แก่ นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา เพื่อสร้างห้องผ่าตัดความดันลบสวนสมองผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในภาวะฉุกเฉินและผู้ป่วยโควิด-19 โดยมี พูลศรี จงแสงทอง และ พญ.ทัศนีย์ ตันติฤทธิศักดิ์ ร่วมในพิธีด้วย ที่สถาบันประสาทวิทยา เมื่อเร็วๆ นี้
ช่วยอุปกรณ์ – กลุ่มบริษัทอินโดรามา เวนเจอร์ส หรือไอวีแอล ใน จ.ระยอง ได้แก่บริษัท ทีพีที
ปิโตรเคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท อินโดรามา ปิโตรเคม จำกัด (พีทีเอ) และบริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับหน่วยงานสาธารณสุขและ
โรงพยาบาล 6 แห่ง ในจังหวัดระยอง เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ในช่วงการแพร่ระบาดของ
โควิด-19 เมื่อเร็วๆ นี้
มอบเวชภัณฑ์ – บริษัท โกลเด้น แซค เทรดดิ้ง จำกัด มอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ประกอบด้วย หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย ถุงมือทางการแพทย์ และ แอลกอฮอล์ทำความสะอาด ให้แก่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อให้มีเวชภัณฑ์เพียงพอต่อการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำ โดยมี ประเสริฐ ชมพู ผู้อำนวยการส่วนทัณฑปฏิบัติ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นผู้รับมอบ
เมื่อเร็วๆ นี้
…วันซีนในกรุงเทพฯอาจจะไม่มีปัญหา ฉีดไปตามที่นัดไว้กับ หมอพร้อม เป้าหมายยังเน้น ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรค เป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องปกป้องก่อน แต่หากไล่เรียงไปในทางจังหวัดไม่ใช่เช่นนั้น ความโกลาหลเกิดขึ้นมากมาย ในสารพัดปัญหา บางจังหวัด วัคซีนได้น้อย ต้องยกเลิกคิวหลังๆ บางจังหวัดได้เยอะก็จริงแต่ ระบาดหนัก ต้องเปลี่ยนกลุ่มเสี่ยงจาก อายุและโรค ไปเป็น คลัสเตอร์ และบางจังหวัดเห็นค่าของ ข้าราชการ และ พนักงานรัฐ ซึ่งมีหน้าที่บริการประชาชน ว่า เสี่ยงกว่า แผนที่เปลี่ยนไปตามใจ ผู้บริหารพื้นที่ การสื่อสารความเข้าใจที่ส่วนใหญ่ไปจาก ส่วนกลาง จึงก่อความสับสน ยิ่งพูดยิ่งไม่เข้าใจ
…หากลองไล่หาเหตุของปัญหา จะพบว่าเกิดจาก การบริหารที่สับสน จริง เริ่มจาก การกระจายวัคซีน เป็นอำนาจของ ส่วนกลาง แต่ การรับลงทะเบียนและจัดคิวการฉีด เป็นของ จังหวัด ที่กระจายโควต้าต่อไปแต่ละ โรงพยาบาล คนเข้าคิวว่าจะฉีดที่ไหน จำนวนเท่าไร ปรากฏ วัคซีน ที่ส่งไปให้ไม่พอก็เรื่องหนึ่ง อำนาจของจังหวัด ที่จะ ฉีดให้ใครก็อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อในแต่ละวัน จำนวนคนที่ต้องฉีด กับ วัคซีนที่ได้รับ เป็นคนละเรื่องกัน แถมหลายพื้นที่ ไม่เกี่ยวกับที่ลงทะเบียนไว้ในหมอพร้อม ความยุ่งยากในการจัดการจึงเกิดขึ้น
…ปัญหานี้ เหมือน อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ได้รับรายงาน คำที่ว่า ไม่ให้โรงพยาบาลเลื่อนฉีด หรือ ฉีดเร็วเกินไป หรือกระทั่งจะเอาผิด ผอ.โรงพยาบาลที่ประกาศเลื่อนฉีด นั้น เป็นเพราะไม่สัมผัสปัญหาที่แท้จริง การที่รัฐบาลวางนโยบายไปอย่าง แต่พื้นที่เห็นความจำเป็นต้องปรับไปอีกอย่าง แต่ไม่ทำความเข้าใจให้ดี คนเดือดร้อนคือประชาชน ที่ทำได้แค่นั่งรอวัคซีน เหมือน ขอทานนั่งรอเศษเงิน
…เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอ่ยคำ อะไรที่ไม่สบายใจ ก็ขอโทษแล้วกัน ก็จะทำให้ดีที่สุด เหมือนจะรู้ปัญหา แต่ยังทำให้รู้สึกเหมือน ขอไปที กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ ขอโทษกับการวางแผนการทำงาน และการจัดการที่ไม่เข้าท่า หลังจากนั้นก็ยัง ขอไปที อยู่เหมือนเดิม และที่หนักไปกว่านั้น ที่เกิดขึ้นกับความรู้สึกของประชาชน ไม่ใช่ อะไรที่ไม่สบายใจ แต่เป็น ความสิ้นหวัง เพราะคาดการณ์ไม่ได้เลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิต เพราะการบริหารแบบนี้
…แม้จะพอเข้าใจได้ว่า ประกาศที่ให้ นักเรียนที่เรียนที่บ้าน ต้องส่งภาพ เคารพธงชาติหน้าจอทีวี ไปให้ครูนั้น เป็นภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ ตามยุทธศาสตร์ 20 ปีที่ต้องปลูกฝังความคิด รักรวมศูนย์ ให้เกิดขึ้นกับคนรุ่นต่อไป แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มองอย่างไร ย่อมเป็น เรื่องขำขัน ที่เอามาเล่ากันไม่จบ และผลที่จะตามมา การแสดงออกซึ่งความรักด้วยวิธีการอย่างนี้ จะเป็น ความเชย ที่จะต้อง อำ กันจนแก่เฒ่า
…การคุกคามเกิดกับ รังสิมันต์ โรม สะท้อนว่าวัฒนธรรมการใช้อำนาจเข้ากดข่ม คนที่เห็นต่าง ยังเบ่งบานในสังคมไทย เช่นเดียวกับเรื่องราวของ ผู้ติดตามนักการเมือง กร่างใส่ตำรวจรัฐสภาที่ทำหน้าที่ปกติของตัวเอง และเชื่อ ชวน หลีกภัย ในฐานะ ประธานรัฐสภา ทำได้แค่ออกมาตอกย้ำ 3 อำนาจอธิปไตย และเรียกร้องให้ เคารพกฎหมาย ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ตราบใดที่ กฎหมายถูกละเมิด แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น
…แว่วมาว่า แม้ พ.ร.ก.กู้เงิน 500,000 ล้าน แม้ฝ่ายค้านจะถล่มหนักแค่ไหน และประชาชนจะสิ้นศรัทธากับรัฐบาลเพียงใด แต่ที่สุด โหวตผ่าน ในความรู้สึกถูลู่ถูกัง อธิบายความไม่ชอบธรรมไม่ได้สักแค่ไหนก็ตาม รัฐบาล ยังลอยหน้าลอยตานำเงินที่คนในอนาคตต้องรับภาระไปใช้ ตามความชอบใจ โดยไม่มีใครทำอะไรได้ เนื่องด้วย พลังการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ไม่พอจะต้าน กลไกอำนาจที่สร้างไว้เพื่อส่งเสริมการสืบทอด
ชโลทร