บิ๊กอบต.ท้าชนบ้านใหญ่ ‘สะสมทรัพย์’ ค่ายส้มส่งทีมชิง 17 เขตอบจ.นครปฐม
จังหวัดนครปฐม ถือเป็นพื้นที่ทางการเมืองที่มีบ้านใหญ่ตระกูล “สะสมทรัพย์” และเครือข่ายที่อยู่ในสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาครองพื้นที่มายาวนาน ทั้งในสนามเลือกตั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น
แม้ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ถูกค่ายส้ม พรรคก้าวไกลแบ่งเก้าอี้ไปได้ 2 ที่นั่ง แต่ในสนามท้องถิ่นระดับจังหวัด ยังมี “จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์” บุตรชายคนโตของ “หัวหน้าอ้อน ไชยา สะสมทรัพย์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยึดเก้าอี้นายก อบจ.สมัยที่ผ่านมาในนามกลุ่มชาวบ้าน
ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ มีผู้สมัคร 2 ราย คือ หมายเลข 1 สมพร ภพักตร์จันทร์ อดีตนายก อบต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน และหมายเลข 2 จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ อดีตนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมา และมีผู้สมัคร ส.อบจ. 30 เขต 69 ราย
ส่องโปรไฟล์คู่ชิงนายก อบจ.แล้ว ชาวบ้านร้านตลาดบอกว่า เทียบฟอร์มแล้ว เรียกได้ว่า จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือ ตั่วเสี่ย หรือ เสี่ยหนึ่ง นอนมาอย่างชัดเจน เพราะเป็นทั้งแชมป์เก่า และยังเป็นทายาทบ้านใหญ่ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ทางการเมืองเมืองเจดีย์ใหญ่
ในขณะที่ “สมพร ภพักตร์จันทร์” เป็นอดีตนายก อบต.ที่มีฐานเสียงในพื้นที่ค่อนข้างแคบ แต่สวมหัวใจสิงห์ท้าชิงเก้าอี้จากบ้านใหญ่ในนามอิสระสร้างความฮือฮามากทีเดียว
แม้ถูกมองเป็นกระดูก คนละเบอร์ แต่หากมองอย่างไม่อคติ นักการเมืองก็คือคนที่มาจากประชาชน จึงต้องยึดคะแนนไว้อย่าให้คะแนนหาย อย่าทิ้งร้างสนาม เป็นคำตอบที่สมพรกล่าวเสมอกับคนใกล้ชิดว่า แม้จะเคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่นเล็กๆ แต่ก็มาจากประชาชน อีกทั้งตระหนักเสมอว่า “ทุกคะแนนเสียงนั้นสำคัญ” การลงสมัครครั้งนี้ เป้าหมายชัดเจนเพื่อเช็กเรตติ้ง สำหรับเตรียมพร้อมในสนามการเมืองถัดไป
สำหรับ เสี่ยหนึ่ง จิรวัฒน์ ลงสนามป้องกันแชมป์ในนามกลุ่มชาวบ้านเหมือนเดิม ด้วยการบริหารตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีผลงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีสายสัมพันธ์ค่อนข้างแนบแน่นกับท้องถิ่น และท้องที่ ตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้าน ทั้งการนำปัญหาที่ส่งผ่านมาทาง ส.อบจ.เขต เข้าประชุมคณะทำงานกลุ่มชาวบ้าน เพื่อตกผลึกเป็นแผนพัฒนาท้องถิ่นที่ตรงเป้าหมาย คงแนวทางของกลุ่มชาวบ้าน ที่ยึดโยงกับชาวบ้านมายาวนาน นำมาเป็นนโยบายสร้างสุขให้คนนครปฐม การลงสมัครครั้งนี้ เสี่ยหนึ่งขอโอกาสกลับเข้ามาทำงานอีกสมัยเพื่อสานต่อนโยบายสมัยที่ผ่านมา
ในด้านการแข่งขัน ถือว่าเสี่ยหนึ่งไม่เหนื่อยนัก เพราะกระแสคู่แข่งไม่แรงนัก อีกทั้งเสี่ยหนึ่งยังมีจุดแข็งที่เป็นหลานชาย “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ “อนุชา สะสมทรัพย์” ส.ส.นครปฐม มีฐานเสียงของน้องชาย “ส.ส.โหน่ง พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์” ตุนคะแนนได้มากโข
แต่ลูกทีมผู้สมัคร ส.อบจ.กลุ่มชาวบ้าน 30 เขต กลับเจองานหนักทีเดียว เพราะแม้พรรคประชาชน ซึ่งเคยส่งผู้สมัครนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมาในนามพรรคก้าวไกล จะไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในรอบนี้ แต่ส่งผู้สมัคร ส.อบจ. 17 เขต ใน 7 อำเภอ ในนามกลุ่มประชาชนนครปฐม โดยมีฐานคะแนนแฟนคลับด้อมส้มให้การสนับสนุน
แต่กระนั้นแฟนคลับในพื้นที่หลายคนสงสัยว่า พรรคประชาชนมี ส.ส.นครปฐม 2 ที่นั่งจากทั้งหมด 5 ที่นั่ง เท่าๆ กับพรรคชาติไทยพัฒนา แต่เหตุใดไม่ส่งตัวแทนชิงเก้าอี้นายก อบจ.รอบนี้
โดยเฉพาะ หมอชัช-ชัชวาล นันทะสาร อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครปฐม สมัยที่ผ่านมา รอบที่แล้วหมอชัชลงสนามแข่งขันกับเสี่ยหนึ่ง และ พะเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ. 4 สมัย บ้านใหญ่ริมบึง 99 หมอชัชได้คะแนนถึง 84,868 คะแนน ถือว่ามีคะแนนพื้นที่สนับสนุนพอสมควร
อีกทั้งพื้นที่ยังมีการประเมินกันว่า พรรคส้มประเมินแล้วการจะชิงเก้าอี้บริหารอาจจะสู้บ้านใหญ่ลำบาก จึงต้องการเก็บตัว “หมอชัช” ไว้ลงสนามใดสนามหนึ่ง โดยเลือกรักษาภาพลักษณ์ “หมอชัช” ไว้เพื่อความสง่างามในสนามนั้นๆ ส่วนสมาชิก อบจ.ทั้ง 17 เขต กลุ่มประชาชนนครปฐม ทำการบ้านมานาน และเตรียมพร้อมด้านมวลชนไว้พอสมควร
การลงสนามเล็กรอบนี้ พรรคประชาชน ประกาศความมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงการบริหารงบประมาณกว่า 4,200 ล้านบาท ในวาระ 4 ปี ต้องใช้งบทุกบาททุกสตางค์ ให้เกิดความคุ้มค่า ประชาชนต้องรู้และสามารถตรวจสอบได้ เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชนทุกคน ตามแนวคิด “อบจ.โปร่งใส ตรวจสอบได้” เพราะเห็นว่า การใช้งบประมาณของ อบจ.นครปฐมที่ผ่านมายังขาดการมีส่วนร่วมกับประชาชนอย่างแท้จริง จึงส่งทีมผู้สมัคร ส.อบจ.พรรคประชาชนลงสนามเพื่อตบเท้าเข้าสภาไปสร้างการเปลี่ยนแปลง และพลิกโฉมการบริหารงบประมาณตามเป้าหมาย
อีกไม่นานจะถึงวันลงคะแนน ผู้สมัครทั้งกลุ่มบ้านใหญ่ และค่ายพรรคส้ม ต่างเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียง แนะนำตัว นโยบายด้านต่างๆ เพื่อขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านอย่างแข็งขัน ส่วนนโยบายฝ่ายไหนจะเข้าถึงใจประชาชนมากกว่ากัน ที่สุดแล้ว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 7 แสนคน จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเข้ามาทำงานในสภาท้องถิ่น