พัทลุง – อบจ.พัทลุงเดือด โค้งสุดท้าย อภิสิทธิ์ ขึ้นปราศรัย ช่วยสาโรจน์ ลูกน้องเก่า ล้มบ้านใหญ่ธรรมเพชร ยัน แกนนำภท.ร่วมฟังด้วย
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่สนามโรงเรียนพัทลุง จ.พัทลุง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย นายสาโรจน์ สามารถ ผู้สมัครนายก อบจ.พัทลุง หาเสียง โดยระบุว่า เหตุมาช่วย เพราะทำงานกับ นายสาโรจน์เคยทำงานการเมืองร่วมกันมา 20 ปี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แกนนำภูมิใจไทย น.ส.วาริน ชิณวงษ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลา นายสายัณห์ ยุติธรรม อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมรับฟังการปราศรัย
นายอภิสิทธิ์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า การมาช่วยนายสาโรจน์หาเสียง ของตนไม่ได้ใหญ่โตอะไร เพราะวันนี้ตนคือนายอภิสัทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้ให้คุณให้โทษกับใคร พ่อนายกฯ ตนก็ไม่ได้เป็น ตนมาคุยกับ พี่น้องประชาชนแต่คนตัดสินใจว่า จะเลือกใคร อยู่ตัวของประชาชนเองตนมาพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้ และเคารพการตัดสินใจของประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมาในวันนี้ ไม่ได้พกความแค้นใครมา เพราะตนไม่มีความแค้นกับใคร และไม่มีอคติใดๆ กับใครทั้งสิ้น แม้แต่คำว่าบ้านใหญ่ ตนจะไม่พูดเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ เขาจะมีตระกูลเดียวกัน มีลูกมีหลานทำงานการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ว่า ประชาชนก็มีสิทธิเลือก ถ้าเขาทำดี พี่น้องประชาชนมั่นใจมากกว่าทีมที่ตนมาหาเสียงให้ จะบ้านใหญ่ บ้านเล็ก ประชาชนก็เลือก แต่หากมีอีกทีมมาเสนอตัวกับประชาชน ชวนประชาชนให้มาดูทางเลือกที่ดีกว่า ชวนมาทำการเมืองในแบบใหม่ หากประชาชนเห็นดีด้วยก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นในวันนี้ มีคนที่พาดพิงตน พูดเสมือนว่า ตนเปลี่ยนแปลง แปรพรรค หรือว่าอะไร ที่จริงตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่ตนออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ใครมาชวนตนตั้งพรรค ใครมาชวนย้ายพรรค ตนปฏิเสธ เพราะตนบอกว่า ตนยึดถืออุดมการณ์ประชาธิปัตย์ หากวันหนึ่งตนเห็นว่า ประชาธิปัตย์ทำการเมือง ตามอุดมการณ์ที่ตนเชื่อ ตนก็กลับไปอยู่ประชาธิปัตย์ แต่ถ้าแนวคิดไม่ตรงกันไม่อยากขัดแย้งกับใคร ตนก็นอนอยู่บ้าน
“การเมืองท้องถิ่นไม่ได้มีพรรค เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาสงสัยการมาของผม วันนี้ผมมาแล้วจะไปสนับสนุนหรือไปเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ที่ผมมา เพราะ ความเป็นพี่ ความเป็นนาย เพราะนายสาโรจน์ เป็นคนทำงานให้ตนตลอดเวลา แม้วันนี้ผมไม่มีตำแหน่งอะไร นายสาโรจน์ก็ยังทำให้เหมือนเดิม แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ทำงานด้วยกัน สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ตลอด คือ วันหนึ่งเขาจะกลับมาทำงานเพื่อจังหวัดพัทลุง แต่เขาไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น และวันนี้ เขามีโอกาส ทำการเมืองในบ้านเกิด หากไม่มาขึ้นเวทีให้ จะยังเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ไหม”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า หากวันนี้ นายสาโรจน์ แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะไม่มา แต่เท่าที่ดูวันนี้ คนที่แข่งกับสาโรจน์ ไม่ได้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นถึงรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่การเมือง ท้องถิ่นวันนี้ เขาไม่ได้มาเรื่องพรรค แต่มาเรื่องการเปลี่ยนแปลงพัทลุง ประชาชนอย่างเปลี่ยน ก็เลือก หากไม่อยากเปลี่ยนแปลงก็เลือกคนเก่าเท่านั้นเอง พรรคอะไรก็ไม่ต้องเดือดร้อน เอาไว้ต่อสู้กัน ในสนามเลือกตั้งใหญ่


