ชัยธวัช แย้งทักษิณ คุณสมบัติ ส.ว.ก๊อง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ลั่น ‘สีแดง’ ไม่ใช่สมบัติของใคร

‘ชัยธวัช’ โต้ ‘ทักษิณ’ ชี้แจงกรณี ‘ส.ว.ก๊อง’ ชี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องคุณสมบัติ-ความเหมาะสม ย้อนสีแดงไม่ใช่สมบัติของใคร แต่เป็นของคนรักประชาธิปไตยทุกคน ไม่ใช่ไม่ต้องการก็ถีบหัวส่ง พออยากให้กลับมาก็ขอร้องอ้อนวอน

เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนระหว่างการช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชน เบอร์ 1

นายชัยธวัชกล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวเชียงใหม่ รวมถึงลำพูนย่อมรู้ดีว่า 4 ปีที่ผ่านมา อบจ.เชียงใหม่และ อบจ.ลำพูนทำงานอย่างไร ถ้าดีอยู่แล้วเลือกต่อก็สมเหตุสมผล แต่มันเป็นที่ชัดเจนว่า อบจ. ที่ถูกตั้งข้อสงสัยแม้ในวันที่ชาวเชียงใหม่ทุกข์ยากลำบาก น้ำท่วมสูงที่สุดในรอบ 60 ปี แต่ซื้อถุงยังชีพด้วยราคาที่น่าสงสัยว่าแพงเกินจริงและมีการหาผลประโยชน์หรือไม่ ซื้อข้าวสารที่จะเป็นถุงละ 150 บาทในราคา 310 บาท อย่างนี้หรือที่เรียกว่าทำงานดี ประชาชนย่อมรู้ดีที่สุด

นายชัยธวัชกล่าวว่า ขณะเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็พยายามจะบอกว่าตอนนี้ตัวเองต้องขอให้ อบจ.มาเป็นพวกเดียวกัน เป็นของเพื่อไทยเพื่อที่จะได้รู้ปัญหาของท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน แต่ต้องอย่าลืมว่าที่ผ่านมา อบจ.ในภาคเหนือและภาคอีสานหลายจังหวัดเป็นคนของไทยรักไทย-เพื่อไทย หรือเครือข่ายทางการเมืองของคุณทักษิณมาหลายสมัยแล้ว เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าส่วนใหญ่ทำงานไม่ตอบโจทย์ของประชาชน ไม่ได้เห็นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเอาคนใหม่ที่ทำงานอย่างมีคุณภาพ มีวิธีการทำงานชุดใหม่ การบริหารแบบใหม่ นโยบายแบบใหม่ รวมถึงการใช้งบประมาณแบบใหม่ที่ต้องโปร่งใส ทุกบาทตกถึงมือประชาชนเข้าไปบริหารแทน

ADVERTISMENT

นายชัยธวัชกล่าวต่อไปว่า คุณทักษิณพยายามเชิญชวนประชาชน โดยบอกว่าต้องเลือกท้องถิ่นที่เป็นพรรคพวกเดียวกับรัฐบาลมาเป็นมือเป็นไม้ให้คุณทักษิณในการทำงาน ซึ่งตนคิดว่ายิ่งไปกันใหญ่ เป็นวิธีคิดการทำงานการเมืองแบบเก่าที่มองท้องถิ่นเป็นแค่ฐานทางการเมืองและเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งจะไปสร้างระบบอุปถัมภ์และเครือข่ายผลประโยชน์ และเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ท้องถิ่นที่ผ่านมาไม่พัฒนาเท่าที่ควร ยืนยันอีกครั้งว่าท้องถิ่นไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองหรือของรัฐบาล แต่ต้องเป็นเครื่องมือของคนในพื้นที่ที่ต้องทำงานรับใช้คนในท้องถิ่นของตัวเองอย่างดีที่สุด ไม่ใช่มีคนอื่นเป็นเจ้านาย

นายชัยธวัชกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่คุณทักษิณยังตอบไม่ค่อยชัดที่ตนอยากฝากสื่อมวลชนไปถาม คือเรื่องคุณสมบัติความเหมาะสมของ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง ผู้สมัครนายก อบจ.พรรคเพื่อไทย ซึ่งปีที่แล้วถูกอัยการสั่งฟ้องในคดี “บอส กระทิงแดง” ว่าไปสนับสนุนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ต้องหา ซึ่งแม้คุณทักษิณจะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ตนยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร เพราะเป็นเรื่องคุณสมบัติและความเหมาะสมของคนที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะมาบริหารองค์กรขนาดใหญ่และจังหวัด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน

ADVERTISMENT

“เช่นเดียวกับกรณีของคุณทักษิณที่เคยอยู่บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว การที่เคยพยายามผลักดันทนายของครอบครัวที่เคยถูกกล่าวหาว่าไปติดสินบนผู้พิพากษาไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เรื่องนี้เป็นคุณสมบัติที่ต้องมีความชัดเจน” นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า ชาวเชียงใหม่ ลำพูน หรือจังหวัดอื่นๆ ไม่ใช่ของตายของใคร หรือสมบัติส่วนตัวของครอบครัวใด เชื่อว่าประชาชนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด จากการที่ตนฟังคุณทักษิณมาหลายวัน ประเด็นสำคัญมีอยู่ไม่กี่เรื่อง คือการที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เชียงใหม่และภาคเหนือหลายจังหวัดเป็นเพราะคุณทักษิณไม่อยู่นาน ก็เลยกลายจากแดงเป็นส้ม วันนี้คุณทักษิณจึงพยายามมาหาเสียงขอคะแนนว่าคุณทักษิณกลับมาแล้ว ขอแดงกลับมาได้ไหม ซึ่งต้องยืนยันว่าการที่ชาวเชียงใหม่และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือและทั่วประเทศที่ให้ความนิยมพรรคประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะคุณทักษิณไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่เป็นเพราะสิ่งที่เราทำงานทางการเมืองอย่างต่อเนื่องและแสดงออกให้ประชาชนไว้วางใจว่าเราซื่อตรงต่อประชาชนจริงๆ ทำงานการเมืองอย่างมีคุณภาพ โปร่งใส และอยู่เคียงข้างประชาชน

“ผมยืนยันอีกครั้งว่าสีแดงไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของพรรคไหนหรือครอบครัวใด แต่เป็นสีสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อยู่ในใจของทุกคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาจนถึงวันนี้ แม้กระทั่งผมเองด้วย ดังนั้น สีแดงจึงไม่ใช่สีที่วันไหนอยากจะทิ้งก็ถีบหัวส่ง วันไหนอยากจะขอเสียงคืนก็มาขอร้องอ้อนวอน สิ่งที่จะทำให้ได้เสียงจากประชาชนคือความไว้วางใจต่อแนวทางทางการเมือง นโยบาย และการบริหารที่ตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ”นายชัยธวัชกล่าว

ด้าน น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาชนได้รับข้อมูลจากประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการทุจริตซื้อเสียง รวมถึงในรูปแบบคลิปและเสียง แต่ประชาชนยังมีความหวาดกลัวในอิทธิพลท้องถิ่น และนี่จึงเป็นเหตุผลให้พรรคประชาชนทำระบบขึ้นมารับเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งโดยเฉพาะ ซึ่งประชาชนสามารถส่งข้อมูลทุกอย่างเข้ามาในทุกช่องทางของพรรคประชาชนได้ รวมทั้งทางสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อที่พรรคจะสามารถรับเรื่องไปดำเนินการทางกฎหมายต่อไป และเพื่อป้องกันประชาชนผู้แจ้งเบาะแสให้ได้รับความปลอดภัยด้วย

“ขอให้ทุกคนช่วยกันพิทักษ์เสียงของประชาชน ไม่ใช่เฉพาะก่อนการเลือกตั้ง แต่รวมถึงในวันที่ 1 ก.พ.ด้วย ขอให้ช่วยกันไปเฝ้าหน่วยเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่เฝ้าหน่วย ต่อให้ประชาชนนำพาเสียงเข้าไปถึงหีบบัตรเลือกตั้งได้ เสียงเหล่านั้นก็อาจจะหายไป นี่คือสิ่งที่ทุกคนรวมทั้งคนที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งสามารถทำได้ในการเฝ้าหน่วย ทุกคนมีโทรศัพท์ที่ถ่ายคลิปได้ และไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ กกต. เพราะไม่ได้เป็นการเข้าไปในพื้นที่นับคะแนน อยู่ที่หน้าหน่วยทุกคนสามารถสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย” น.ส.พรรณิการ์ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image