‘เฮง วีระเดช’ โค่นบ้านใหญ่ลำพูน ทำ ‘สีส้ม’ ปักธงอบจ.สำเร็จ จ่อเป็นผู้ชนะเดียวของพรรค
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลคะแนนเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนอย่างไม่เป็นทางการ หลังนับคะแนนแล้ว 99.59% ปรากฎว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน หมายเลข 1 นายวีระเดช ภู่พิสิฐ จากพรรคประชาชน ได้ 109,530 คะแนน เอาชนะแชมป์เก่า อดีตนายกอบจ.ลำพูน 4 สมัย อย่าง นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ 103,511 คะแนน นำห่าง 6,019 คะแนน
จังหวัดลำพูน จึงกลายเป็น “จังหวัดเดียว” ของประเทศไทย ที่ในการเลือกตั้งอบจ. 2568 นี้ ผู้สมัครจากพรรคประชาชน สามารถโค่นแชมป์เก่าอย่างเพื่อไทยลงได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ลำพูน ว่า พื้นที่อำเภอเมืองลำพูน คาดว่าจะเป็น “พื้นที่ของพรรคประชาชน” เป็นส่วนใหญ่ อาทิ อำเภอเมือง อำเภอป่าซาง อำเภอเวียงหนองล่อง ขณะที่ในพื้นที่ต่างอำเภอนั้น เชื่อว่าเป็น “พื้นที่ของพรรคเพื่อไทย” อาทิ อำเภอบ้านธิ อำเภอแม่ทา อำเภอบ้าโฮ่ง อำเภอลี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง
สำหรับ จังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดเล็กๆ มีพื้นที่ 8 อำเภอ มี ส.ส. 2 เขต ส่วนการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีสมาชิกสภา อบจ.หรือ ส.อบจ. 24 เขต มีงบบริหารประมาณ 400 ล้านบาท มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งสิ้น 330,282 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2568) มีหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 688 หน่วยเลือกตั้ง
ในวันที่ก้าวสู่สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ. ที่มี 2 บ้านใหญ่ลงชิงชัยแบบเดินหน้าท้าชนไม่มีการถอย ระหว่าง เสี่ยโอน-อนุสรณ์ วงศ์วรรณ และ โกเฮง-วีระเดช ภู่พิสิฐ เป็นอีกสนามแข่งขันที่เสมือนสงครามตัวแทนระหว่าง 2 พรรคฝั่งประชาธิปไตย พรรคแดงกับพรรคส้มโดยไม่มีพรรคอื่นมาร่วมแบ่งแต้ม
บรรยากาศตั้งแต่วันรับสมัครช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งเสี่ยโอน และโกเฮง ต่างเปิดตัวลงสนามพร้อมลูกทีมลงชิงเก้าอี้ ส.อบจ.ครบทุกเขต หลังการสมัครแยกย้ายกันจัดขบวนรถแห่หาเสียงไปทั่วจังหวัดหวังชิงพื้นที่หาเสียง เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด
เรียกว่าประชาชนอยู่ไหน ผู้สมัครจะไปถึงที่ รับฟังทุกปัญหาทุกเรื่องราวพร้อมรับแนวทางการแก้ไข โชว์นโยบายบริหารงานครบทุกด้านเพื่อเอาชนะใจชาวบ้านก่อนตัดสินใจให้คะแนน
หากเทียบกระแสของทั้ง 2 ผู้สมัคร เปรียบได้ดัง “เด็กหนุ่มไฟแรง” ท้าสู้ “ผู้เฒ่าเก๋าเกม” ที่ครองพื้นที่มายาวนาน อีกทั้งยังเป็นการวัดกระแสสองพรรคด้วย เพราะในสนามใหญ่ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนต่างมีที่นั่ง ส.ส.เขต พรรคละ 1 ที่นั่ง
ด้วยสไตล์ของ “โกเฮง” แม้ยังไม่ดุดัน พูดน้อย นโยบายพรรคยังสื่อสารเข้าถึงประชาชนกลุ่มคนรุ่นเก่าได้ยาก แต่มีแกนนำพรรคทั้ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ หัวหน้าเท้ง-ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง เปิดปราศรัยใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ส่วนขุมกำลังสนับสนุน “โกเฮง” เข้าสู่เส้นชัย ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มคนทำงาน คนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นลำพูนเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนการบริหารจากคนรุ่นเก่ามาเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งนายก อบจ.และทีม ส.อบจ.ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ที่ก้าวลงสนามด้วยใจมุ่งมั่น ขอโอกาสทำงาน รอบนี้พรรคส้มขอปักธงในสนาม อบจ.ตามรอบ การเลือกตั้ง ส.ส.ลำพูนเมื่อปีที่ผ่านมา
ฝั่ง เสี่ยโอน-อนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตนายก อบจ.ลำพูน สมัยที่ผ่านมา ดีกรีไม่ธรรมดา ผ่านสนามระดับชาติ มีประสบการณ์ทางการเมือง และบริหารงานระดับชาติหลายตำแหน่ง ทั้งเป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และอดีต รมช.หลายกระทรวง วันนี้ลงสนามอีกครั้งหวังรักษาเก้าอี้อีกสมัย เปรียบม้าเจนสนามยังฮึดสู้จะวิ่งต่อไป
“เสี่ยโอน” ชูนโยบายขอสานต่อสิ่งที่ทำไว้อีกสมัย วันนี้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านร้านตลาด ชุมชน มีขุมกำลังสำคัญ ทั้ง ส.ส.พรรค อดีต ส.อบจ. นักการเมืองท้องถิ่น แนวร่วมทางการเมืองหลายกลุ่มมาช่วย หวังรุมกินโต๊ะแบบเบ็ดเสร็จ แม้อายุมากแต่ก็มากด้วยประสบการณ์ แต่กระแสในพื้นที่ มีประชาชนบางส่วนอยากเห็นผลงานที่เด่นชัดจาก 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนฐานเสียงยังคงเป็นเสื้อแดง และคนรุ่นเก่าที่ยังพร้อมให้การสนับสนุน
ศึกชิงเก้าอี้ อบจ.ครั้งนี้ ทั้งคู่ต่างมี ส.ส.เขตสนับสนุน ทั้ง “วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก” ส.ส.เขต 1 พรรคส้ม และ “รังสรรค์ มณีรัตน์” ส.ส.เขต 2 ฝั่งพรรคเพื่อไทย ขยันลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครพรรคตนเองอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม จากสถิติสำคัญของตำแหน่ง นายก อบจ.ลำพูน หากย้อนไปดูทำเนียบนายก อบจ.ลำพูน จากอดีตถึงปัจจุบัน เหมือน “สมบัติผลัดกันชม” เพราะไม่เคยมีใครสามารถรักษาตำแหน่งได้เกิน 2 สมัย