ศึกชิง ‘ส.อบจ.ตรัง’ แพ้โหวตโน! เตรียมเลือกตั้งใหม่ 16 มี.ค. ชี้เบื่อคนหน้าเดิม-ผลงานไม่เด่น

เขต 2 ชิงส.อบจ.ตรัง แพ้โหวตโน! กกต.ตรังประชุมด่วน ประกาศเลือกตั้งใหม่ 16 มี.ค.นี้ ผู้สมัครเดิมชวดลงซ้ำทุกราย กกต.ชี้ แก้มือครั้งสุดท้าย หากนายประสงค์ชนะอีก ต้องปล่อยให้เขตไร้ส.อบจ. ชี้โหวตโนตรังพุ่งเพราะปชช.เบื่อคนหน้าเดิม-ผลงานไม่โดดเด่น ด้านผู้แพ้ น้อมรับเสียงปชช. ชี้เขตพื้นที่ทับซ้อนเขตเทศบาลส่งผลทำงานไม่ได้เต็มที่-ชาวบ้านไม่รู้จัก ทางโล่ง คึกคักความเคลื่อนไหวผู้สมัครรอบ 2

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า ตามที่การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาอบจ.ตรัง ทั้ง 30 เขต ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ อดีตนายกอบจ.ตรัง หัวหน้าทีมนายกบุ่นเล้ง สามารถรักษาเก้าอี้เอาไว้ต่ออีก 1 สมัยด้วยคะแนนอันดับที่หนึ่ง 171,694 คะแนน ทิ้งห้างผู้ท้าชิงทั้ง 2 คน แต่นักวิเคราะห์เลือกตั้งในพื้นที่ได้วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ในส่วนของคะแนนโหวตโน ที่มีจำนวนมากอย่างมีนัยยะสำคัญและไม่เคยปรากฎมาก่อนในการเลือกตั้งท้องถิ่นของจังหวัดตรัง

โดยจากข้อมูลสรุปผลการนับคะแนนจากกกต.แบบไม่เป็นทางการ ทั้งจากบัตรเลือกตั้งนายกอบจ. และบัตรเลือกตั้งส.อบจ.ทั้ง 30 เขต พบว่า รวมคะแนนโหวตโนทั้ง 2 บัตร สูงถึง 115,703 คะแนน หรือร้อยละ 17.75 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 5 แสนคน ถือเป็นคะแนนโหวตโนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งท้องถิ่นตรัง

ขณะเดียวกัน ผลการนับคะแนนเลือกตั้งส.อบจ.ตรัง ในเขต 2 อ.เมืองตรัง กลับสร้างความสั่นสะเทือนยิ่งกว่า โดยพบว่า กกต.ตรัง ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุด คือ นายบุญโชติ ฟุกล่อย ได้คะแนน 2,577 คะแนน ขณะที่คะแนนโหวตโนในเขตดังกล่าว มีจำนวน 2,687 คะแนน (ทิ้งห่างกัน 110 คะแนน)

ADVERTISMENT

ส่วนผู้สมัครที่ได้คะแนนอันดับ 2 คือ นายจงเกียรติ ตั้งพิทยาเวศย์ ได้ 2,254 คะแนน คนที่ 3 คือ นายสุทัศน์ จันทร์สว่าง ได้ 1,598 คะแนน ถือเป็นเขตเดียวของทั้งประเทศ ที่ผู้สมัครส.อบจ.ที่ได้รับคะแนนมากที่สุดในบรรดาผู้เข้าแข่งขัน แต่แพ้คะแนนโหวตโน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แพ้นายประสงค์(ไม่ประสงค์เลือกผู้ใด)

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ กกต.อบจ.ตรัง ได้ประชุมด่วนพร้อมประกาศให้มีการรับสมัครเลือกตั้งใหม่ในเขตนี้ระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์นี้ และกำหนดวันลงคะแนน 16 มีนาคมนี้ โดยตามกฎหมายเลือกตั้ง ผู้สมัครเดิมทั้ง 3 คน ต้องหมดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้

นายบุญโชติ ฟุกล่อย อดีตผู้สมัครส.อบจ. เขต 2 จังหวัดตรัง สังกัดทีม “นายกบุ่นเล้ง” ซึ่งได้คะแนนสูงสุดของการเลือกตั้งในเขต แต่แพ้คะแนนโหวตโน ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่าพื้นที่จังหวัดตรังไม่มีใครคาดคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีคะแนนโหวตโนเข้ามาจำนวนมากทุกเขตเลือกตั้ง และส่วนตัวในเขตเลือกตั้งที่ 2 ก็ไม่คิดว่าจะพ่ายให้แก่คะแนนโหวตโน จึงเป็นครั้งแรก แต่ก็พร้อมน้อมรับคำตัดสิน ส่วนตัวอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมืองตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ครอบคลุมเขตตำบลนาตาล่วง และเขตเทศบาลนครตรังบางส่วน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่เขตเทศบาลนครตรังอาจจะไม่รู้จักตนมากนัก เพราะเขตพื้นที่ทับซ้อนกับการทำงานของสมาชิกสภาเทศบาล(สท.) ตนจึงทำงานคลุกคลีกับชาวบ้านในพื้นที่ตำบล แต่ในเขตเทศบาลอาจไม่ได้ทำงานใกล้ชิดมากนัก ทำให้ชาวบ้านไม่รู้จักตน

“ประกอบกับการเลือกตั้งตรงกับวันเสาร์ คนออกมาใช้สิทธิน้อยไม่ถึงร้อยละ 50 ทำให้พ่ายแพ้ต่อคะแนนโหวตโน หลังจากนี้แม้จะไม่มีสิทธิลงสมัครใหม่ แต่ผมก็ยังจะทำงานให้กับประชาชนต่อไป ส่วนการรับสมัครเลือกตั้งใหม่นั้น ขอฝากว่า กกต.ก็จะต้องรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มาก ชี้แจงเรื่องของการเลือกตั้งให้ประชาชนเข้าใจว่าจะได้และเสียสิทธิอะไร ส่วนคนที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้คนรู้จัก ผู้สมัครคนใหม่ที่จะเข้ามาหรือหากได้เป็นตัวแทนชนะเลือกตั้งเข้าไป ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี” นายบุญโชติ กล่าว

ด้าน นายสิรวิชญ์ ง๊ะสมัน ผอ.กกต.ตรัง กล่าวว่า กกต.เตรียมประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ ส.อบจ.ตรัง เขต 2 อำเภอเมืองตรัง โดยกำหนดรับสมัครวันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งอบจ.ตรัง ชั้น 2 อบจ.ตรัง และกำหนดวันลงคะแนนวันที่ 16 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย หากมีคนแพ้คะแนนโหวตโนอีก กฎหมายก็ให้มีจำนวนสมาชิกเท่าที่มีได้ สามารถปล่อยให้ว่างได้ ไม่ต้องจัดเลือกตั้งซ้ำครั้งที่ 3 โดยขณะนี้มีผู้โทรศัพท์มาสอบถามแล้วหลายราย

สำหรับการเลือกตั้งที่ผ่านมาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รอบนอกทั้งจังหวัดมาใช้สิทธิประมาณร้อยละ 53 แต่ในเขตเทศบาลนครตรังมาใช้สิทธิประมาณร้อยละ40 เท่านั้น สาเหตุที่คนมาใช้สิทธิน้อย เพราะเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับเขตเทศบาลนครตรัง และชาวบ้านอาจจะเห็นว่า ส.อบจ.ไม่มีบทบาทในการดูแลแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ และอาจคิดว่าเป็นพื้นที่การทำงานของเทศบาลนครตรังทั้งหมด จึงทำให้เกิดช่องว่าง และคนเห็นว่าใกล้เลือกตั้งเทศบาลนครตรังด้วย จึงมาใช้สิทธิน้อย และตรงกับวันเสาร์

“ส่วนบัตรโหวตโนที่มีจำนวนมาก ก็คงเป็นเพราะว่าคน คือทางผู้สมัครเป็นหน้าเดิมส่วนใหญ่ บางเขตไม่มีคู่แข่ง จึงสะท้อนว่า ไม่อยากเลือกคนนี้แล้ว หรือผลงานไม่โดดเด่น จึงสะท้อนออกมาด้วยคะแนนโหวตโน” ผอ.กกต.ตรัง ระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังคะแนนโหวตโนชนะที่เขต 2 อำเภอเมืองตรัง ได้สร้างความคึกคักให้คอการเมืองเป็นอย่างมาก โดยมีความเคลื่อนไหวว่าที่ผู้สมัครแต่งองค์ทรงเครื่องเตรียมตัวลงสมัครกันอย่างคึกคักอย่างน้อย 5-6 คน (เลือกตั้ง 1ก.พ.68 สมัครแข่งกัน 3 คน) โดยมีผู้สมัครส.อบจ.ตรังที่พ่ายคู่แข่งในเขตเลือกตั้งอื่นประสงค์มาลงในเขต 2 จำนวน 2-3 คน นอกจากนี้ยังมีหน้าใหม่ ทั้งจากประธานชุมชนในพื้นที่ และคนรุ่นใหม่เริ่มขยับตัวให้ความสนใจลงชิงตำแหน่งส.อบจ.ตรังในเขตนี้กันอย่างคึกคัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image