นักวิชาการ-ชาวโคราช สะท้อนคนเบื่อการเมือง ปม ปชช.ใช้สิทธิเลือกอบจ.น้อย ไม่ลงคะแนนพุ่ง

นักวิชาการ-ชาวโคราช สะท้อนคนเบื่อการเมือง ปม ปชช.ใช้สิทธิเลือกอบจ.น้อย ไม่ลงคะแนนพุ่งสุดเป็นประวัติการณ์

ภายหลังจากที่ ก.ก.ต.จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ จำนวน 1,155,142 คน คิดเป็น 52.56% ของผู้มีสิทธิทั้งหมด 2,197,927 คน โดยมีบัตรดี จำนวน 972,902 ใบ คิดเป็น 84.22% บัตรเสีย จำนวน 71,306 ใบ คิดเป็น 6.17% และบัตรไม่ลงคะแนน จำนวน 110,934 ใบ คิดเป็น 9.60% ส่วนคะแนนผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา อันดับที่ 1 นางยลดา หวังศุภกิจโกศล หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย ได้ 621,822 คะแนน อันดับที่ 2 นายมารุต ชุ่มขนทด หมายเลข 3 กลุ่มอิสระ ได้ 181,856 คะแนน อันดับที่ 3 นายทักษิณ เขื่อนโคกสูง กลุ่มอิสระ ได้ 129,857 คะแนน และอันดับที่ 4 นายนิติรักษ์ ฟักกระโทก กลุ่มอิสระ ได้ 39,367 คะแนน ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้มีปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้นหลายประการ อาทิ มีผู้มาใช้สิทธิน้อยเป็นประวัติการณ์ มีบัตรเสียและบัตรไม่ลงคะแนนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา และนักวิชาการ ต่อปรากฏการณ์ครั้งนี้ โดยนายณรงค์ กอหญ้ากลาง อายุ 62 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง กล่าวว่า ตนเองมองว่าสาเหตุที่คนมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยมากเช่นนี้ เกิดจากการที่มาจัดการเลือกตั้งตรงกับวันเสาร์ ซึ่งหลายคนไม่ได้หยุดงาน เช่น คนทำงานในโรงงานต่างๆ ส่วนใหญ่จะหยุดงานวันอาทิตย์ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางมาเลือกตั้งได้ และอีกปัจจัยหนึ่งคือคนเบื่อการเลือกตั้ง เลือกมาแล้วไม่ว่าจะได้คนใหม่หรือคนเก่า ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงทำให้คนไม่ค่อยอยากเดินทางมาเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ แต่ขณะเดียวกันการเลือกตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยังจะมีคนออกมาใช้สิทธิมากกว่า แสดงให้เห็นว่าคนไม่ค่อยคาดหวังกับการเลือกตั้ง อบจ.เท่าใดนัก

ด้านนายโต (นามสมมติ) อายุ 73 ปี ชาว อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า กรณีที่การเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรเสียและบัตรไม่ลงคะแนนจำนวนมากขนาดนี้ ตนเองเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ จะต้องเป็นความตั้งใจของผู้มาใช้สิทธิเอง ที่จงใจทำให้กลายเป็นบัตรเสีย และไม่อยากลงคะแนนให้ใคร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเบื่อการเมือง หรือไม่มีแรงจูงใจที่จะให้เลือกใครเลยก็ได้

ADVERTISMENT

ขณะที่ รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปรากฏการณ์การเลือกตั้ง อบจ.นครราชสีมาครั้งนี้ ตนคาดว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น 1.การเลือกตั้งที่ตรงกับวันเสาร์ ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายภาคส่วน เพราะคนทำงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยหยุดวันเสาร์กัน 2.ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ หลายคนมองว่ามีช่องวางของศักยภาพที่ห่างกันมาก เพราะโดยระบบของการเลือกตั้งทุกระดับชั้นของไทย ส่วนใหญ่จะอาศัยระบบหัวคะแนน ซึ่งนางยลดาฯ แชมป์เก่า มีครบทุกอย่าง ทั้งเรื่องของเงิน เครือข่าย ส.ส. และพรรคการเมืองระดับชาติ ในขณะที่คู่แข่งคนสำคัญ คือนายมารุตฯ แทบจะไม่มีส่วนนี้เลย 3.คนเบื่อการเมือง เพราะนางยลดาฯ สังกัดพรรคเพื่อไทย และนายมารุตฯ แม้จะไม่ได้ใส่เสื้อพรรคประชาชน แต่ภาพจำของคนโคราชก็เชื่อว่าเป็นสีส้มอยู่ และผู้สมัครอีก 2 คนที่เหลือ คนก็ไม่ค่อยรู้จัก จึงไม่อยากออกมาใช้สิทธิเลือก รวมทั้งผู้ที่ออกมาใช้สิทธิก็กาไม่ลงคะแนนให้ใครเป็นจำนวนมาก 4.ประชาชนไม่คาดหวังกับ อบจ.เพราะอำนาจหน้าที่หลายอย่างมีความซ้ำซ้อนกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น อบต. และเทศบาล ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเหล่านี้จะมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า จึงทำให้คนไม่ค่อยคาดหวังอะไรกับ อบจ.มากนัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image