อาจารย์ ม.ราชภัฏอุบลราชธานี จี้ กกต.ทวงถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน ‘กานต์ กัลป์ตินันท์’ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ดร.วรวุฒิ ตั้งประดิษฐ อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีและทนายความ เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของ นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี
ร.อ.ดร.วรวุฒิกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2568 ได้พบว่าเฟซบุ๊กของนายกานต์ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง อบจ. หมายเลข 1 ได้โพสต์หาเสียงในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.2567 เวลากลางวันถึงเวลากลางคืน วันเวลาใดไม่ปรากฏแน่ชัด ซึ่งได้จัดทำเอกสารโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (เฟซบุ๊ก) ด้วยการนำเสนอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและดูแลคุณภาพชีวิตพี่น้องคนไทย ซึ่งกล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ, นโยบายไร่ละ 1,000 บาท ช่วยเหลือชาวนา เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกร เป็นต้น โดยระบุข้อความท้ายนโยบายดังกล่าวว่า “อย่าลืมนำนโยบายดีๆ ที่ผมและทีม ได้ปราศรัยไปบอกต่อนะครับ” โดยไม่ปรากฏการกล่าวถึงนโยบายการหาเสียงของตนเอง
ร.อ.ดร.วรวุฒิกล่าวว่า การโฆษณานโยบายดังกล่าวเป็นรูปภาพในวงกว้าง เพื่อสื่อให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเข้าใจว่าเป็นนโยบายของตน แต่การที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 1 เคยดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.อุบลราชธานี มาแล้วหลายสมัย ย่อมทราบดีว่านโยบายที่ใช้หาเสียงดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เพราะนโยบายดังกล่าวมิใช่ภารกิจตามกฎหมายและอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินงานเฉพาะกิจการในท้องถิ่นที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย โดยมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5 พ.ศ.2562) ได้กำหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ดำเนินกิจการภายในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด คือ 1.ตราข้อบัญญัติโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย 2.จัดทำแผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และประสานการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด ตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำแผนนโยบายของรัฐบาล
ร.อ.ดร.วรวุฒิกล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายที่นายกานต์ใช้ในการโฆษณาหาเสียงเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณจากส่วนกลาง โดยมีมติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกานต์เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 1 จึงมิใช่เป็นผู้ที่จะสามารถดำเนินการได้จริง ดังนั้น การกระทำของผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 1 จึงเป็นการหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิด ในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้ง ให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 1 ทำให้การเลือกตั้งดังกล่าวในส่วนที่เกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 1 มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 65 (5) จึงควรถูกพิจารณาไต่สวนและเพิกถอนสิทธิตามมาตรา 106 วรรค 4, วรรค 5 และมาตรา 108 วรรคแรกถึงวรรคท้าย ประกอบกับพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 224 และมาตรา 226
“ได้เข้าร้องเรียนต่อการกระทำดังกล่าวต่อ กกต.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ กกต.ส่วนกลาง จึงได้เดินทางไปที่ กกต.อุบลราชธานี เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว” ร.อ.ดร.วรวุฒิกล่าว
