‘พท.’โวยคสช.สองมาตรฐาน ไฟเขียวกลุ่มสามมิตร เดินสายดูดอดีตส.ส.

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าการเดินสายพูดคุยทางการเมืองเพื่อทาบทามอดีตนักการเมืองไปร่วมงาน ของกลุ่มสามมิตร ไม่ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะไม่ได้รวมตัวกันเพื่อปั่นป่วนทำให้เกิดความวุ่นวายในรัฐบาล ว่า การพูดลักษณะนั้นเห็นได้ว่าสองมาตรฐานกลุ่มสามมิตรจะทำอะไรได้ กระทั่งเดินสายดูดนักการเมืองก็ไม่ผิดคำสั่ง คสช.แต่พรรคเพื่อไทยจะขยับทำอะไรต้องถูกจับจ้อง กล่าวหาว่าผิดคำสั่งคสช.เป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองไปหมด ทั้งนี้ตนได้รับรายงานจากอดีตส.ส.ภาคต่างๆของพรรค มีทั้งทหารตำรวจฝ่ายปกครองไปล็อบบี้เคลื่อนไหว โดยได้บอกให้ทุกคนใช้ความอดทนต่อสิ่งที่ไม่เป็นธรรมทั้งหลาย จนกว่าที่จะมีการเลือกตั้งและให้ประชาชนตัดสินและหวังว่าประชาชนคงจะเข้าใจ

ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่าผู้มีอำนาจของรัฐที่ต้องเป็นคนกำกับดูแลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น มีพฤติกรรมที่วางตัวไม่เป็นกลางและที่สำคัญคือทำให้วัตถุประสงค์ที่คสช. อ้างเพื่อยึดอำนาจว่าจะปฏิรูปการเมือง เพราะว่านักการเมืองปัจจุบันมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ใช้เงินซื้อเสียง แสวงหาผลประโยชน์หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้คนที่เข้ามาเพื่อที่จะปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง กลับไปให้ท้ายบุคคลที่มีวิธีการสวนกับการปฏิรูปการเมือง ทั้งที่รู้ว่า3 ส.อะไร แต่บอกว่าทำได้ ไม่มีปัญหา ไม่ผิด ถือว่าขัดหลักการที่จะเข้ามาปฏิรูปการเมืองชัดเจน และยังหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฏหมายพรรคการเมือง ที่ให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไปชี้นำหรือครอบงำพรรคอื่น ซึ่งพฤติกรรมของ3 ส.ที่ไปชวนคนโน้นคนนี้ให้มาร่วมงานด้วยเห็นได้ชัดเจนว่าสุ่มเสี่ยง ถึงแม้จะอ้างว่ายังไม่ได้มีการตั้งพรรคการเมืองสามารถพูดคุยได้ แต่ประเด็นนี้กฎหมายเขียนว่าคำว่าบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค หมายถึงใครก็ได้ที่ไปก้าวก่ายงานของพรรคโน้นพรรคนี้ จึงตีความได้ว่าหมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย และผู้ใหญ่ที่มีอำนาจซึ่งจะต้องเป็นผู้บริหารจัดการร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ดูแลการเลือกตั้ง กลับมาพูดให้ท้ายถือว่าไม่เหมาะสมและทำให้ข้ออ้างของการรัฐประหารเรื่องการปฏิรูปการเมืองล้มเหลวหมด

นายสามารถ กล่าวว่า การออกมาปกป้องกลุ่มที่สนับสนุนคสช. ไม่ได้มองว่าเป็นการบีบพท. เพราะเราชินกับการถูบจับจ้อง จับผิด ส่วนบุคคลที่เขาเดินสายมาดูดไปนั้น ก็เอาน้ำโคลน น้ำเน่า เลือดเสียออกไป ทำให้พท.ดีขึ้นด้วยซ้ำ ขณะนี้คนที่ออกไปมีแค่จ.เลย 3 คนเท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่นยังไม่เห็นมีใครไป โดยเฉพาะอดีตส.ส. ภาคเหนือของพรรค ทุกคนยัง มั่นคง เหนียวแน่น ไม่มีใคร ว่อกแว่กไปไหน และที่มีกระแสข่าวว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตส.ส.เพชรบูรณ์ จะไปร่วมงานกับพรรคอื่นก็ไม่เป็นความจริง เป็นเพียงการปล่อยข่าวเขย่าเรียกกระแสเท่านั้น ดังนั้นที่อ้างว่าเป็นอดีตส.ส.ของพท. พรรคไทยรักไทย นั้นเป็นบุคคลสมัยพรรคไทยรักไทยแล้วไปสมัครอยู่กับพรรคอื่น ไม่ใช่อดีตที่อยู่ปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ตามการพูดคุยของพรรคยืนยันว่าทำไปตามกฏหมาย เรามีการพูดคุยทางโทรศัพท์หรือกินกาแฟกันบ้าง แต่ไม่ได้มานั่งประชุมพูดคุย จึงไม่เข้าข่ายผิดกฏหมายพรรคการเมือง ตรงกันข้ามกับพรรคที่กำลังตั้งใหม่ ที่ก็มีการประชุมพูดคุยกันอย่างโจ่งแจ้งแต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image