“ประวิตร” ถก คกก.ขับเคลื่อนคณะ 5 “คงชีพ” เผยไทยคืบหน้าแก้ปัญหาไอยูยู 85% ย้ำไม่ละเลยทำอีไอเอแฟลตดินแดง ด้าน “ศิริจันทร์” ระบุ 2 พ.ค.ไทยเซ็นเอ็มโอยูร่วมเอียซ่าแก้ปัญหาการบินพลเรือน เตรียมแจงผลการแก้ไขบนเวทีประชุมเอเอสซีที่เบลเยี่ยมปลาย พ.ค.นี้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 เมษายน ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5
จากนั้นเวลา 10.30 น. พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงผลการประชุมว่า คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีเพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหา ซึ่งเกี่ยวข้องกันหลายหน่วยงาน อะไรที่สามารถแก้ปัญหาโดยผ่านที่ประชุมคณะนี้ก็จะดำเนินทันที ส่วนปัญหาที่ไม่สามารถได้จะเสนอนายกฯ เพื่อสั่งการต่อไป ส่วนความคืบหน้าจากการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย 4 เรื่อง คือ 1.การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) 2.การพัฒนาชุมชนเมืองดินแดง 3.การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน และ 4.การแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ ซึ่งความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายทางการไทยได้ดำเนินการไปแล้ว 36 งาน จาก 65 งานตามที่สหภาพยุโรป (อียู) เสนอมา ถือว่าคืบหน้าแล้วกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น ปลดระวางเรือซึ่งมีจำนวนมากเกินกำหนดและได้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ สร้างความเข้าใจให้เกิดความรวดเร็วในด้านการสื่อสารระหว่างเรือประมงกับหน่วยงานกำกับควบคุม รวมถึงสร้างระบบติดตามเรือและห้ามขนถ่ายสัตว์กลางทะเลไทย ควบคุมไม่ให้เกิดการค้ามนุษย์และใช้แรงงานเด็ก รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือกันในระดับภูมิภาค
พล.ต.คงชีพ กล่าวถึงการพัฒนาแฟลตดินแดงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนในแฟลตว่าประชาชนยังสามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น ซึ่งประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว และขอให้รัฐบาลเร่งพัฒนา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการทำอีไอเอซึ่งรัฐบาลไม่ได้ละเลยในเรื่องนี้ พร้อมสำรวจความต้องการของประชาชนด้วย
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนมีความคืบหน้าเป็นลำดับ รัฐบาลได้วางกรอบให้ผู้รับผิดชอบไปดำเนินการรายงานผลการแก้ปัญหาต่อหน่วยงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดสรรบุคลากรเพื่อดูแลความปลอดภัยด้านการบินโดยคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้เห็นชอบ ปรับกรอบอัตราโครงสร้างขององค์กรแล้วอยู่ระหว่างคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนและบุคลากรที่จะมาทำงานด้านนี้ ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ อีกทั้งยังมีการพัฒนาคุณสมบัติผู้ตรวจสอบความปลอดภัยด้านการบิน ซึ่งขณะนี้มีจำนวน 16 คนแล้ว ที่เหลืออยู่ระหว่างฝึกอบรมภาคอากาศนักบินและระบบจัดการความปลอดภัยและระบบปฏิบัติการบิน ซึ่งจะผ่านการอบรมภายในเดือนมิถุนายนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีการทำสัญญาว่าจ้างองค์การการบินพลเรือนสหราชอาณาจักร (ซีเอเอไอ) เพื่อมาร่วมตรวจสอบความปลอดภัยการบินและในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้จะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ร่วมกับสำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป (เอียซ่า) เพื่อพัฒนาศักยภาพความปลอดภัยการบิน รวมถึงได้ร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรอีกด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการด้านความปลอดภัยการบิน (เอเอสซี) ที่ประเทศเบลเยี่ยม โดยขณะทำงานพิเศษของไทยจะร่วมหารือกับหน่วยงานด้านความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ โดยมีหัวข้อชี้แจงในเรื่องต่างๆ ที่ดำเนินการ
ด้านว่าที่ ร.ต.หญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ทีมงานโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาชุมชนริมคลองลาดพร้าวว่า จะมีการพัฒนาทั้งหมด 43 ชุมชน 7,314 ครัวเรือน ความยาวพื้นที่พัฒนา 31.9 กิโลเมตร ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 3 ชุมชน ได้รับความเชื่อเหลือแล้วกว่า 300 ครัวเรือน ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี 6 เดือน นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่อยู่อาศัย ที่ปัจจุบันมีการตั้งสหกรณ์ชุมชนโดยให้ทำสัญญาเช่ากับชุมชนและกรมธนารักษ์ ระยะ 30 ปี ทำให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยอย่างถาวรมากขึ้นในราคาย่อมเยาว์ และจะมีการตั้งสหกรณ์เพิ่มอีก 10 แห่งด้วย