“วิลาศ” จี้ ”บิ๊กตู่”ใช้ม. 44 ห้ามหน่วยงานจัดทริปดูงานตปท. แฉ องค์กรอิสระขนคณะ200 คนทัวร์ยุโรป อ้างศึกษาวัฒนธรรม ขู่ใช้พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯเรียกสอบงบดูย้อนหลัง2 ปี หลังพบไป15 ปท. เกี่ยวกับงานแค่2 ปท.
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 เมษายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคปชป. กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งห้ามข้าราชการไปดูงานต่างประเทศ หรือหากหน่วยงานใดเดินทางไปต้องมีการเขียนรายงานชี้แจงทุกครั้งว่าเกิดประโยชน์ด้านใดกับประเทศ ว่า ขณะนี้ปรากฏว่ามีหลายหน่วยงานยังมีการเดินทางไปต่างประเทศ เช่น กรุงเทพมหานคร องค์กรอิสระ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอ้างว่าไม่ใช่ข้าราชการ และนโยบายดังกล่าวบังคับใช้เฉพาะปี 2557 เท่านั้น จึงสามารถทำได้ ดังนั้นตนขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 หรือออกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)กำหนดว่าหน่วยงานใดบ้างที่ไม่ให้เดินทางไปดูงานต่างประเทศ และหากไปจะต้องทำรายงานส่ง เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงคำสั่งลอยๆ ไม่มีการระบุรายละเอียด จึงเปิดช่องให้หลายหน่วยงานนำไปเป็นข้ออ้างได้
นายวิลาศ กล่าวต่อว่า ล่าสุดตนได้รับเอกสารกำหนดการพานักศึกษาหลักสูตรอบรบคณะหนึ่งประมาณ 200 คน ไปดูงานต่างประเทศขององค์กรอิสระแห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยชื่อองค์กรนั้น โดยจะมีการเดินทางไปยัง 3 ประเทศ คือไอร์แลนด์เหนือ เวลลส์ และ อังกฤษ ระหว่างวันที่15-25 กรกฎาคม ซึ่งหมายงานส่วนใหญ่ระบุว่าไปศึกษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยไม่เกี่ยวข้องกับขอบข่ายหน่วยงานของตนเองแต่อย่างใด ดังนั้น ตนจึงขอให้องค์กรอิสระดังกล่าวเปิดเผยรายละเอียด จุดประสงค์ของการเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ หากไม่ดำเนินการตนจะขอใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อขอเรียกดูข้อมูลการใช้งบประมาณย้อนหลัง2 ปี ด้วย เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวมีการเดินทางไปดูงานต่างประเทศถึง 15 ประเทศ แต่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่เพียง 2 ประเทศเท่านั้น
“ในเดือนพฤษภาคม องค์กรดังกล่าวจะเดินทางไปประเทศเกาหลี และหลังเดือนกรกฏาคมยังมีกำหนดการเดินทางไปประเทศรัสเซีย ตุรกีร์ ลิทัวเนีย และ ลัตเวีย นอกจากนี้ ผมจะตรวจสอบการเดินทางไปดูงานต่างประเทศก่อนหน้านี้ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยอ้างว่าไปศึกษาดูงานตามสถานที่ราชการ แต่กลับไปในช่วงวันชาติ ซึ่งสถานที่ทุกแห่งปิดหมด จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางไปดูงานใช้เงินหลวงหรือไม่ หากใช้ก็ไม่ต่างกับหน่วยงานอื่นๆในราชการ ที่ไม่สามารถเลี่ยงบาลีได้”