นายกฯ พร้อมผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น รับรองยุทธศาสตร์โตเกียว 2018

นายกฯ พร้อมผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น รับรองยุทธศาสตร์โตเกียว 2018 หวังกำหนดทิศทางความร่วมมือให้เกิดผลรูปธรรม ยึด ปชช.เป็นศูนย์กลาง

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 10 ร่วมกับผู้นำญี่ปุ่นและผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขง ณ เรือนรับรองรัฐบาลญี่ปุ่น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และเสนอแนวทางการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุมว่า ขอแสดงความชื่นชมกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น ที่มีความทันสมัย ครอบคลุมความร่วมมือที่หลากหลาย และมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและแสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นเป็นมิตรแท้ที่ยาวนานและเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมาโดยตลอด ทั้งนี้ ไทยมุ่งมั่นร่วมมือกับญี่ปุ่นในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยมีเป้าหมายพัฒนาความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งถือเป็นสายน้ำแห่งมิตรภาพและความร่วมมือ โดยเชื่อว่าการเชื่อมโยงต่างๆ จะนำไปสู่เสถียรภาพ สันติภาพ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งสร้างความกินดีอยู่ดีให้ประชาชน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงข้อคิดเห็นต่อยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ.2018 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Tokyo Strategy 2018 for Mekong-Japan Cooperation) ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมที่จะมีการรับรองในการประชุมครั้งนี้ ประการแรก ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ.2018 มีความทันสมัย สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคและสถานการณ์โลก เห็นได้จากการกำหนดทิศทางความร่วมมือตาม 3 แนวทาง ได้แก่ 1.ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่เสรีและเปิดกว้าง 2.เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และ 3.การดำเนินการตามแผนแม่บท ACMECS ระยะ 5 ปี (ค.ศ.2019-2023) ประการที่สอง การกำหนดแผนแม่บท ACMECS เป็นแนวทางหนึ่งในการดำเนินการของยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แผนแม่บทได้ปรากฏอยู่ในเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมระหว่างประเทศ ซึ่งไทยในฐานะสมาชิกและผู้ยกร่างแผนแม่บท จะผลักดันให้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคเชื่อมโยงกันกับกรอบความร่วมมือ ACMECS และกรอบความร่วมมืออื่นๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป

ประการที่สาม ไทยพร้อมสนับสนุนเสาความร่วมมือใหม่ 3 เสาหลัก ได้แก่ 1.การพัฒนาความเชื่อมโยงที่ดีและมีประสิทธิภาพ 2.การสร้างประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ 3.การสร้างความตระหนักรู้ต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสีเขียว เพื่อเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือด้านการส่งเสริมความเชื่อมโยง โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ความเชื่อมโยงระดับประชาชน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Advertisement

ประการสุดท้าย ยุทธศาสตร์กำหนดให้ปี ค.ศ.2019 เป็น “ปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่นกับลุ่มน้ำโขง 2019” เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น โดยขณะนี้ ภาครัฐและเอกชนไทยกำลังเตรียมกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวาระดังกล่าว ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมหลัก คือการจัดการประชุม Green Mekong Forum ครั้งที่ 6 ซึ่งไทยได้ร่วมกับญี่ปุ่นจัดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อย่างไรก็ตาม ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการร่วมพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง บนหลักการไว้เนื้อเชื่อใจกันของประเทศสมาชิก และผลักดันให้กรอบความร่วมมือนี้เป็นกลไกหลักที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image