เด็ก ‘หญิงหน่อย’ โดดป้อง ชี้ รบ.ไม่เข้าใจหลักโครงการ 30 บาท จี้อย่าตีตราคนด้วยบัตรคนจน

เด็ก “หญิงหน่อย” โดดป้อง ชี้ “นายกฯ-ไก่อู” ไม่เข้าใจหลัก “โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค” แนะ ควรมองข้อเสนอ “หญิงหน่อย” เป็นประโยชน์-ไม่โยงการเมือง พร้อมจี้นายกฯยกเลิกมติ ครม.ตีตราบัตรคนจนรักษาฟรี-ถอนร่าง กม.ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพ

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นแพทย์และอยู่ในพรรคไทยรักไทยที่เริ่มต้นทำนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมาย หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่ภาคประชาชนร่วมเสนอและเป็นกรรมาธิการถึงหนึ่งในสาม ซึ่งเขาได้ต่อสู้ปกป้อง เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาคทัดเทียมอย่างเข้มข้น เมื่อปี 2545 ได้ฟังท่านนายกรัฐมตรีและ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ พูด ตอบข้อท้วงติงด้วยความห่วงใยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค พท. ที่พูดถึงโครงการหลักประกันสุขภาพ หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เรื่องบัตรคนจน และเรื่องซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และการดูแลให้สวัสดิการแก่พี่น้องประชาชนในปัจจุบัน จึงมีปัญหามากขึ้นทั้งผู้รับบริการ เช่น คนไข้ก็มีความทุกข์ ผู้ให้บริการ ไม่มีความสุขยิ่ง งบประมาณเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มมากขึ้น การเจ็บป่วยและคนไข้ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพโดยรวมแย่ลง

“ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนในรัฐบาลไม่มีความเข้าใจในหลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และหลักการสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ เรื่องการแบ่งแยกชนชั้น เมื่อไปใช้บริการจากรัฐ ซึ่งต้องการให้การใช้สิทธิในการเข้าถึงบริการและการรักษาพยาบาลอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี ทัดเทียมกัน ป้องกันการ แบ่งแยกว่าคนนี้จน จากเจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลทั่วไป ขณะนี้ทุกคนที่ใช้บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ก็เข้ามารับการรักษาฟรีได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีมติ ครม. ให้บัตรคนจนรักษาฟรี เพราะจะเป็นการไปตอกย้ำ แบ่งแยกคนจน 11.4 ล้านคน ให้มีสิทธิรับการรักษาฟรีก็ต่อเมื่อเขาต้องถือบัตรคนจนเท่านั้น ดูเหมือนเป็นการเพิ่มมูลค่าบัตรแต่กลับตอกย้ำแบ่งแยก ทำให้การเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างทัดเทียมกัน อย่างมีศักดิ์ศรี ถูกกระทบอย่างแรง การดำเนินการเช่นนี้ ถือว่าเป็นการทำลายหลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ให้สิทธิคนไทยทุกคนเข้าถึงการบริการและการรักษาพยาบาลอย่างมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน โดยรู้เท่าไม่ถึงการ หรือเรื่องนี้ มีเป้าหมายอื่นแอบแฝงอยู่ ต้องการตอกย้ำเพื่อนำไปสู่ข้อผูกมัดทางการเมือง ในเรื่องเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือต้องการแบ่งแยกให้ชัดเจน ว่าคนที่ไม่มีบัตรคนจน คือคนที่มีรายได้มากกว่า 100,000 บาท ขึ้นไป ต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลร้อยละ 10-20 ตามที่มีข่าวในหน้าสื่อ

“นายกฯ และ พล.ท.สรรเสริญ ควรมองความปรารถนาดีของคุณหญิงสุดารัตน์ให้ออก ว่าเป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับทาง คสช.และรัฐบาล ไม่ควรมองเป็นประเด็นทางการเมือง หวังผลทางการเมือง และลดความน่าเชื่อของรัฐบาล คุณหญิงท่านห่วงใย ผมว่าท่านนายกฯควร พิจารณายกเลิกมติ ครม.ตีตราบัตรคนจนรักษาฟรี หรือถอนร่าง กม.ซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพ หรือร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติ ที่ ครม.พึ่งเห็นชอบส่ง สนช.พิจารณา กลับไปพิจารณาใหม่ดีกว่า การยกเลิกและการถอนร่าง จากแรงต้านจากประชาชน คนรักหลักประกันสุขภาพ และประชาชนทั่วไปจะสร้างปัญหา สร้างความวุ่นวายตามมาอย่างมากมาย ตราบใดที่มีกฎหมายให้บัตรแห่งความสุขรักษาฟรี ขณะที่คนรวยจ่ายตังค์ จะเกิดบัตรแห่งความทุกข์ ในโรงพยาบาลขึ้นมาทันทีเพราะชื่อบัตร เพราะการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ไปตอกย้ำการให้บริการที่มีการแบ่งแยกชนชั้น ดังนั้นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายควรไปศึกษาเรียนรู้หลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ หลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และผลกระทบที่จะเกิด เมื่อจะดำเนินการใดๆ ให้เข้าใจอย่างแจ่มชัดเสียก่อน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของประชาชน” นพ.ชลน่านกล่าว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image