“หญิงหน่อย” ประกาศกร้าว จะดัน “โคราช” เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค-ศูนย์กลางท่าเรือทางบก ไม่สน คสช. จะปลดล็อกเมื่อไหร่
วันนี้ (31 ต.ค.) กรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่ เชิญชวนประชาชนมาสมัครสมาชิกพรรค โดยในเวลา 13.40 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เดินทางมาที่โรงแรมลีโอซอ ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครสมาชิกพรรคพท.
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจที่ได้กลับมาบ้าน ดีใจที่ได้เจอผู้หลักผู้ใหญ่ หลายท่านอวยพรก็ถือเป็นกำลังใจสำหรับลูกหลาน ทั้งนี้ พวกเราขอสัญญาว่าพวกเราจะนำเศรษฐกิจที่ดี และชีวิตที่ดีมาสู่คนโคราชให้ได้ พ่อของตนเป็นคนรักบ้านเกิด และทุ่มเทให้กับโคราช ตนจึงอยากสืบสานปณิธานของพ่อ เพราะโคราชคือประตูสู่อีสาน เราจะทำอย่างไรให้โคราชกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ เราจะช่วยกันส่งเสริมศักยภาพให้กับโคราช วันนี้แม้ราคาผลผลิต และเศรษฐกิจจะซบเซา ตนไม่เคยเดินจากอนุสาวรีย์ย่าโมมาตลาดแม่กิมเฮงแล้วคนเข้ามากอดร้องไห้มากเท่าวันนี้มาก่อน จนตนรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของคนโคราช ดังนั้น อะไรที่จะเป็นอุปสรรคที่จะขัดขวางความเจริญเราจะต้องแก้ไข และทำให้โคราชมีการขนส่งที่ดี เป็นศูนย์กลางท่าเรือทางบกของประตูอีสาน จะต้องเชื่อมทุกเส้นทางไปยังแหลมฉบังได้ และจะต้องทำให้โคราชเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา แต่เราต้องมาช่วยกันสมาชิกพรรคต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะแก้ไขปัญหาร่วมกัน จากนี้เราจะทำให้อีสานเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพ และเป็นฐานการผลิตอาหารที่จะส่งไปทั่วโลก เราจะทำให้ประชาชนมีความสุข และมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น นโยบายที่ผ่านมาเราทำไว้ดี ซึ่งเรารู้ว่า เราจะทำอย่างไรให้สิ่งดีๆเหล่านั้นกลับคืนมา เราจะทำให้พรรคพท.กลับมาแก้ไขปัญหา และกลับมาทำให้ความสุขของคนไทยกลับคืนมาให้ได้
ต่อมาเวลา 14.21 น. คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ ว่า เหตุเลือกมาเปิดตัวที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดแรกเพราะ 1.ตนเป็นลูกหลานคนโคราชแท้ๆ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เป็ยลูกคนโคราช เป็นหลานย่าโมโดยแท้ และ 2.วันนี้นครบ 10 ปีที่คุณแม่จากไป และเดือนหน้าครบ 4 ปีที่คุณพ่อจากไปตนจึงถือโอกาสมาทำบุญที่วัดแจ้งนอก และถือโอกาสมารับสมัครสมาชิกในพื้นที่ ทั้งนี้ การมาครั้งนี้ มาเพียงเพื่อเชิญชวนชาวบ้านให้มาสมัครสมาชิกพรรค ไม่ได้ทำอะไรที่ขัดคำสั่งคสช. อยากให้ประชาชนมาร่วมกันคิด และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเท่าที่พูดคุยชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาเศรษฐกิจ และความยากลำบาก หลายคนมากอด มาร้องไห้ ถือเป็นความทุกข์ยากลำบากของประชาชน
เมื่อถามถึงการจัดสรรตัวผู้สมัครลงรับสมัครทั้ง 14 เขต ลงตัวหรือยัง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้ยังไม่ลงตัว เพราะการแบ่งเขตยังไม่ชัดเจน ซึ่งมีผู้พยายามเสนอการแบ่งเขตในรูปแบบใหม่นอกเหนือจาก 3 แบบที่กกต.เสนอไว้ ซึ่งอาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญได้ เพราะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ และทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการไปลงคะแนน ซึ่งเรื่องนี้อดีตส.ส.ของพรรคพท.ได้ไปยื่นร้องต่อกกต. เพื่อให้กกต.ทบทวนการแบ่งเขตดังกล่าวแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่อดีตส.ส.นครราชสีมาของพรรคพท. ย้ายไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ (รปช.) จะมาดึงคะแนนของพรรคพท. หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้ว่าจะเลือกใครที่จะทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ส่วนตัวบุคคลที่ย้ายไปก็ไม่ใช่ปัญหา ทั้งนี้ เราเคยโดนสึนามิเมื่อปี 2549 มาแล้ว ตอนนั้นออกไปครึ่งหนึ่ง ยังอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ยืนยันว่าวันนี้เราพร้อมสู้
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศจะปลดล็อกประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ว่า หากการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์จะต้องทอนเวลาตัวเลขให้ตรงตามกรอบระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนตัวไม่เรียกร้องอะไร ขอให้ทันกฎหมายก็แล้วกัน จะปลดล็อกหรือไม่เราก็พร้อม อย่างไรก็ตาม คสช. อยากดำเนินการอย่างไรก็ตามแต่คสช.จะเห็นสมควร เราจะไม่เรียกร้องเงื่อนไขใดๆ จะทำอะไรก็ตามสบาย ปลดล็อกเมื่อไหร่เราก็พร้อม
ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้กกต.แบ่งเขตการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม ไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบต่อพรรคใดพรรคหนึ่ง ในส่วนของผู้สมัครส.ส.นครราชสีมาทั้งหมด 14 เขตนั้น เบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว 12 เขต ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งอดีตส.ส.เก่า และผู้สมัครหน้าใหม่ ส่วนอีก 2 เขตยังอยู่ในช่วงพิจารณา
