รองหน.ปชป. ชี้แบ่งเขตทำจัดคนยุ่งยาก เชื่อ “เจิมมาศ” เอาอยู่แม้ป้อมปราบฯรวมดุสิต

รองหัวหน้าปชป. กทม. ชี้แบ่งเขตทำจัดคนลงสมัครยุ่งยาก เชื่อ “เจิมมาศ” เอาอยู่ แม้ป้อมปราบรวมดุสิตบางส่วน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ดูแลกทม.กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่า การแบ่งเขตที่ออกมมา เป็นแบบที่ 1 แต่ของพรรคปชป.ได้ทำเตรียมไว้ทั้ง 4 แบบ โดยจัดคนไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งในส่วนของพื้นที่กทม.จากเดิมมี 33 เขต ลดเหลือ 30 เขต บางพื้นทีก็ถูกรวมกับพื้นที่อื่น ทำให้การจัดคนลงสมัครยุ่งยากขึ้น เพราะจำนวนเขตลดลง คนที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ไม่ได้ลง ซึ่งตามหลักก็ต้องยึดส.ส.เดิม ส่วนผู้ที่ไม่ได้ลงเขตก็จะต้องขึ้นบัญชีรายชื่อ โดยเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า พื้นที่กทม.มีการแบ่งเขตเหมือนต้องการช่วยเหลือบางพรรคการเมือง เช่น เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ ที่แบ่งเขตดุสิต บางส่วนที่มีทหารอาศัยอยู่เข้าไปด้วย นายสรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่อยากบอกว่าเป็นการจงใจหรือไม่ เพราะเพราะเขาจัดตามจำนวนประชากร และต้องดูที่ตัวคนลงสมัครด้วย ซึ่งของพรรคปชป. คือนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ อดีตส.ส.เขตนี้ เราเชื่อว่า นางเจิมมาศเอาอยู่

นายสรรเสริญ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีปัญหาคือฝั่งธนบุรี เขตหายไป 1 เขต เดิมเขตตลิ่งชัน รวมเขตบางกอกน้อยบางส่วน และเขตบางพลัดรวมเขตบางกองน้อยส่วนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขตตลิ่งชันย้ายไปรวมกับเขตภาษีเจริญ และเขตบางพลัด รวมกับบางกองน้อย ซึ่งเดิมพื้นที่ตรงนี้มี 3 เขต เมื่อแบ่งเขตใหม่ทำให้เหลือ 2 เขต ซึ่งทำให้ต้องมาพิจารณาผู้สมัครอีกครั้ง ส่วนฝั่งพระนคร เขตที่ถูกยุบไป เช่น เขตห้วยขวาง วังทองหลาง ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ของนายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ ก็ไม่มีปัญหาเพราะเขาย้ายพรรคแล้ว ซึ่งเขตห้วยขวางจะแบ่งไปรวมกับเขตดินแดง ของนายธนา ชีรวินิจ ส่วนเขตวังทองหลาง ก็มารวมกับเขตลาดพร้าวของตน ซึ่งตนยืนยันว่าลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตดังกล่าวเหมือนเดิม เพราะมั่นใจในผลงานที่ทำมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image