‘มาร์ค’ แนะ กกต.ทบทวนเรื่องป้ายหาเสียง ชี้ ‘ชวน’ ผู้สมัคร ส.ส.-สมาชิกพรรค ต่างจากคนอื่น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ธันวาคม ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมงาน “อนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง 2562” ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ห้ามใช้รูปนายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. ขึ้นป้ายหาเสียง ว่า กกต.จะนัดหารือกับพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เพื่อพูดคุยถึงกฎกติกาและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงว่า จะทำอะไรได้บ้าง ตนคาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในวันดังกล่าว แต่กรณีของนายชวนนั้น ถือเป็นผู้สมัครส.ส.และเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ด้วย ตนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ทั้งนี้ ตนคิดว่า กกต.ควรต้องไปดูว่า ภาพของบุคคลที่จะเอามาใช้ในป้ายหาเสียงนั้นเขาเป็นผู้สมัคร ส.ส.ด้วยหรือไม่ เป็นสมาชิกพรรคนั้นๆ ด้วยหรือไม่

เมื่อถามว่า จากข่าวที่ออกมาเช่นนี้คิดว่า กกต.มีความบกพร่องหรือไม่ เพราะยังไม่มีความชัดเจนแต่กลับมีข่าวออกมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้เกิดความสับสน อย่างไรก็ตามคงต้องรอฟังข้อยุติที่เป็นระเบียบของ กกต.ที่กำลังจะออกมาดีกว่า

เมื่อถามต่อว่า พรรคปชป.จะนำประเด็นใดบ้างไปหารือกับกกต.ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ หัวหน้า ปชป. กล่าวว่า มีหลายเรื่อง เพราะมีรายละเอียดทั้งเรื่องจำนวนป้ายหาเสียง อาสาสมัครในการรณรงค์หาเสียง ขนาดป้ายหาเสียง รถแห่ สื่อสังคมออนไลน์ และยังยังมีอีกหลายคำถามที่ยังมีความไม่ชัดเจนอยู่ โดยสิ่งเราจะนำไปเสนอมาจากประสบการณ์ ทั้งนี้ เราต้องการให้การปฏิบัติมีความง่ายและชัดเจน รวมถึงทำอย่างไรให้ประชาชนมีความตื่นตัวและได้รับรู้ รับทราบเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไม่ควรให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ การเลือกตั้งในประเทศไทยว่า การมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งถือเป็นเรื่องปกติ หน่วยงานต่างๆ ก็ทำกัน แม้แต่คนของพรรค ปชป.ก็เคยได้รับเชิญให้ไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งในต่างประเทศ ทั้งนี้การที่รัฐบาลอำนวยความสะดวกให้คนเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งจะทำให้เกิดความมั่นใจว่าการเลือกตั้งนั้นจะมีความสุจริตและเที่ยงธรรม รวมถึงทำให้เกิดการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย รัฐบาลจึงไม่น่ากังวลอะไร ถ้าเราคิดว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

Advertisement

“คงไม่ถึงขั้นที่รัฐบาลต้องเป็นผู้เชิญให้เขาเข้ามาสังเกตการณ์ เพียงแต่หากมีองค์ไหนขอเข้ามาสังเกตการณ์ รัฐบาลก็เพียงอำนาจความสะดวก เพื่อทำให้เห็นว่าประเทศของเรามีความโปร่งใส ซึ่งคงไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะองค์กรระหว่างประเทศไม่สามารถมาจัดการอะไร หรือจะเข้ามาแทรกแซงอะไร เขาแค่มาสังเกตการณ์ว่าการเลือกตั้งในประเทศไทยเป็นไปตามมาตรฐานประชาธิปไตยหรือไม่ และทั้งหมดอยู่ที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายของเรา ซึ่งเขาไม่สามารถเข้ามาเกี่ยวข้องได้อยู่แล้ว หากเราสามารถทำให้ชาวโลกมั่นใจได้ว่าการเลือกตั้งของเรามีความเป็นประชาธิปไตยก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศของเราเอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image