ราว 30 กว่าปีก่อน กิตติศัพท์ของ 2 พี่น้อง เส้งเอียด หรือ จอมโจรไข่หมูก เป็นที่เลื่องลือ และหวาดกลัวในดินแดนภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ตลอดแนวเทือกเขาบรรทัด เอียด เส้งเอียด และ เจิม เส้งเอียด เจ้าของชื่อจอมโจรไข่หมูกในอดีต ที่ทั้งชาวบ้าน ลูกเล็กเด็กแดงพากันหวาดกลัวหัวหด
ในอดีตจอมโจรไข่หมูกและน้องชาย ถูกศาลตัดสินรับโทษประหารชีวิต และติดคุกตลอดชีวิต แต่ทั้ง 2 ประพฤติตัวเป็นนักโทษชั้นดีตลอดมา จึงได้รับพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งทันทีที่ออกมาจากเรือนจำ 2 พี่น้องตั้งมั่นปวารณาตัวเองทันทีว่าชีวิตที่เหลือนับจากนี้คือ จะทำงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน ทำงานตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
งานที่อดีตจอมโจรไข่หมูก และน้องชายทำมาตลอดคือ การดูแลรักษาป่าในพื้นที่ จนวันนี้เขาได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านให้ทำหน้าที่ประธานชมรมจิตอาสารักษาป่าเทือกเขาบรรทัด
อดีตจอมโจรไข่หมูกและน้องชาย ได้เดินทางจาก จ.พัทลุง เข้าพบ ดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่า ประเทศไทย (รป.) เพื่อจะบอกให้ ดำรงค์รู้ว่า พวกเขาต้องการสนับสนุนการทำงานของ พรรค รป. โดยจะช่วยพรรคทำงาน ฟื้นฟูป่า รวมทั้งแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนในพื้นที่ป่า
โดยนายเอียดกล่าวว่า พรรค รป.กับตนมีอุดมการณ์เดียวกัน ที่ต้องการดูแลรักษาป่า เพราะป่าคือชีวิต คือลมหายใจ คืออากาศ คือน้ำ เป็นทรัพยากรที่ให้ทุกอย่างกับประชาชน ขาดป่าเหมือนกับการขาดลมหายใจ ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นไม่เคยพูดเรื่องป่า มีแต่จะเอาป่าไปหากิน อยู่ในพื้นที่ก็พูดให้ประชาชนสนับสนุนพรรค รป.เพราะเห็นการทำงานของนายดำรงค์มาตั้งแต่ท่านเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทั่งท่านเกษียณอายุราชการ ท่านก็ยังทำงานเรื่องนี้ต่อเนื่อง เห็นและศรัทธาในการทำงานด้านป่าอย่างจริงจังจึงเข้ามาช่วย เพราะในอดีตตนเคยถูกกดดันในสังคม จนหลงผิดเข้าป่า เป็นโจร กระทั่งออกมามอบตัว ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯจากในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานอภัยโทษออกมา ตนกับน้องชายที่ได้รับโทษด้วยกันจึงปวารณาตัวเองตั้งแต่นั้นว่าจะทำงานช่วยพระองค์ท่านดูแลป่าจนกว่าชีวิตจะหาไม่
“ตอนอยู่ในพื้นที่ มีนักการเมืองบางพรรคมากล่าวหาว่า พรรค รป. เอาโจรมาดูแลป่า ผมก็ตอบไปว่าดีกว่าบางพรรคที่เอาป่าไปแจกคนรวย ทำให้ป่าแหว่งป่าเสียหายเสื่อมโทรมมาจนถึงวันนี้ ผมมาด้วยความเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับท่านดำรงค์ มาแบบไม่มีค่าตัว แต่มาด้วยใจเต็มๆ ขณะที่พรรคอื่นก็ต้องการให้ผมไปช่วย มีค่าตัวให้เป็นล้านบาทแต่ผมไม่ไป ไม่คิดจะไปด้วย เพราะเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดกับผม ที่สำคัญคือพรรคการเมืองเหล่านั้นไม่มีอุดมการณ์เรื่องการทำงานกับป่า ดังนั้น ถ้าเปิดให้มีการหาเสียงได้เมื่อไหร่ ทุกเวทีของภาคใต้ ผมพร้อมกับนายเจิมก็พร้อมจะไปปราศรัย เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรค รป.ทุกเวที” นายเอียดกล่าว
นายเอียดกล่าวว่า การตอบรับของประชาชนในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด กับพรรค รป. เวลานี้ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากความเห็นแก่ตัวของนายทุนที่รุกรานผืนป่า รวมไปถึงการทำงานที่ไม่สุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่นายดำรงค์ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือดูแลแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านที่ประสบความทุกข์ยากในเรื่องนี้ โดยที่นักการเมืองในพื้นที่เองไม่เคยเหลียวแลเลย ซึ่งชาวบ้านเหล่านี้คือคนที่เข้าใจในเจตนาของพรรค รป.เป็นอย่างดี ซึ่งตนเชื่อว่าชาวบ้านกลุ่มนี้จะให้การสนับสนุนพรรคเต็มที่
ด้านนายดำรงค์กล่าวว่า พรรค รป.เป็นพรรคเล็ก แต่ 1 คะแนนเสียงของประชาชน ที่ช่วยพรรค รป.นั้นเท่ากับเป็นการต่ออายุให้กับป่า แต่หากถามว่าพรรค รป.มีเสียงตอบรับจากประชาชนมากแค่ไหน ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเป็นพรรคเล็ก ถนัดทำงานเรื่องเดียวคือเรื่องป่า งานด้านอื่นๆ เช่น งานเศรษฐกิจ การศึกษา เราไม่ถนัด ก็ปล่อยให้พรรคอื่นทำไป ซึ่งยังไงก็สู้พรรคใหญ่ไม่ได้แน่นอน เอาแค่ว่าเราไปไหนไม่มีใครโห่ไล่ หรือเอาของมาปาใส่ เราก็ถือว่าเขาตอบรับเราแล้ว
