“วิษณุ”โยน กกต. ตรวจสอบ ปมโต๊ะจีน “พลังประชารัฐ” ระบุ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ห้ามหน่วยงานรัฐบริจาคให้พรรค แต่คนในองค์กรทำได้ในฐานะส่วนตัว ชี้ แก้กฎหมายใช้พรรคเดียวเบอร์เดียว เป็นเรื่องยุ่งยาก-ไม่ทัน ยัน โหร-นักวิชาการ ทำนายคนเป็นนายกฯ ได้ ไม่ถือเป็นชี้นำ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองวิพากษ์วิจารณ์การระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ไม่ทราบ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรกัน ไม่มีใครเคยมาถาม แต่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เขียนว่า ห้ามหน่วยงานของรัฐ หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจที่รัฐเข้าไปถือหุ้นอยู่มาก เข้าไปอุดหนุนบริจาคให้กับพรรคการเมือง เพราะไม่ให้ใช้งบของหลวง แต่เขาเปิดช่องให้เอกชนและข้าราชการทำได้ในฐานะส่วนบุคคล ซึ่งถ้าเป็นคนในองค์กรนั้นเอง ไม่เป็นไร แต่เป็นเงินของใคร ต้องถามด้วย ขณะที่กรณี 4 รัฐมนตรี ที่เป็นผู้บริหารพรรค สามารถบริจาคเกิน 3 พันบาทได้ เพราะกฎหมายกำหนดเฉพาะห้ามรับเกินเท่าไร
เมื่อถามถึงกรณีมีการเรียกร้องให้พรรค พปชร. เปิดรายละเอียดผู้ซื้อโต๊ะจีน นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ทราบ คงเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปตรวจสอบเอง และการซื้อโต๊ะถือเป็นการบริจาคในการระดมทุน เอาเป็นว่าให้ กกต.ไปตรวจสอบ ตนตอบอะไรไม่ได้ เพราะจะกลายเป็นว่ารัฐบาลเข้าไปยุ่ง
เมื่อถามว่า หากเป็นกรณีหน่วยงานรัฐไปขอสนับสนุนจากเอกชน โดยที่หน่วยงานรัฐไม่ได้ออกเงินเอง สามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ ไปถาม กกต.ดีกว่า จะได้คำตอบ
เมื่อถามว่า โหรสามารถพูดว่าใครจะมาเป็นนายกฯ ในช่วงเลือกตั้งได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ช่วงไหนก็พูดได้ เพราะพูดภาษาโหร ง่ายๆ คือ เดาเอา เราก็เดา อย่าว่าแต่โหรเลย ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ถือเป็นการชี้นำ เพราะการชี้นำที่เขาห้ามจะอยู่ในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)การเลือกตั้ง ตรงนั้นต้องระวังมากขึ้น เช่น โพล ที่ห้ามทำก่อนการเลือกตั้งกี่วัน หรือ เอ็กซิตโพล ที่มีผล ส่วนโหรและนักวิชาการนั้นไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะไม่เกิดการชี้นำ เป็นการคาดเดา โหรถามจากดาวดวงเดียว นักวิชาการดูปรากฏการณ์ในอดีต แต่โพลเป็นการถามประชาชน
เมื่อถามว่า หลัง กกต.พูดคุยกับพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ได้มาปรึกษาด้านกฎหมายกับรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยัง และไม่เคยมาคุยกับตนแต่ไหนแต่ไร นอกจากมีปัญหา ถ้าเป็นปัญหาที่เขาแก้ได้ จะไม่มาหารือกับตน ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ใช้บัตรเลือกตั้งเบอร์เดียวกันทั้งประเทศนั้น ที่ กกต.บอกว่ามาตรา 44 ไม่ใช่เรื่องของท่านก็ถูกต้อง และการจะเปลี่ยนไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบพรรคเดียวเบอร์เดียว มันต้องแก้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากและไม่ทัน เพราะมีกระบวนการหลายขั้นตอน
เมื่อถามย้ำว่า จะใช้มาตรา 44 แก้ไขหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พูดแล้วว่ายังไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้
