‘วัน อยู่บำรุง’ การเป็นผู้แทนฯ ไม่ใช่มรดก เซ็นให้กันไม่ได้

ในบรรดาสามพี่น้อง “ลูกเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีลูก “วัน อยู่บำรุง” คนเดียวที่เลือกเส้นทางการเมืองเหมือนพ่อ โดยลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2554 แต่แพ้ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

บทเรียนครั้งนั้นทำให้เขาต้องกลับมาทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อจะได้ครอบครองใจประชาชน นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการตั้งกลุ่ม “ใจถึงพึ่งได้” การก๊วนเครือข่ายในการทำความดี ช่วยเหลือสังคม โดยมีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ

“ผมตั้งกลุ่มใจถึงพึ่งได้มาตั้งแต่ปี 2557 พี่แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงให้เพื่อหาเสียงเลือกตั้ง เดิมทีมีประมาณ 50-60 คน มีการทำเสื้อแจกคน ต่อมามีคนขอเสื้อใจถึงพึ่งได้เยอะ จึงคุยกับน้องชาย เพื่อตั้งเพจใจถึงพึ่งได้ 3 เดือนแรกมีคนเข้ามา 30,000 คน แต่ปัจจุบันมี 1.8 แสนคน ซึ่งใครจะเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ ต้องชอบตัวตนผม ชอบนิสัยแบบผม ชอบอุดมการณ์ แนวคิด การช่วยเหลือสังคมแบบผม ทุกวันนี้หลายคนใส่เสื้อใจถึงพึ่งได้ไปทำความดีในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นฝายกั้นน้ำ ช่วยคนพิการ บริจาคของ กลุ่มใจถึงพึ่งได้มีทุกจังหวัด เช่นเดียวกับต่างประเทศที่มีกลุ่มใจถึงพึ่งได้”

ร.ต.อ.เฉลิมเป็นแรงบันดาลใจให้ “วัน” สนใจการเมือง ความฝันสูงสุดในชีวิตนี้ของเขา คือการชนะเลือกตั้ง ได้เป็น ส.ส.เหมือนพ่อ ผู้ที่คนไทยรู้จักทั่วประเทศ

Advertisement

“ความใฝ่ฝันสูงสุดของผมคืออยากเป็น ส.ส.เหมือนคุณพ่อ คนรู้จักตระกูลอยู่บำรุงทั้งประเทศได้เพราะพ่อผม ซึ่งคุณพ่อเองอายุอานามมากแล้ว ขณะที่พี่ชายและน้องชายผมก็ไม่ชอบการเมือง มีผมคนเดียวที่ชอบ เพราะผมตามท่านไปหาเสียงตั้งแต่จำความได้ ดังนั้น ความใฝ่ฝันของผมคือความเป็น ส.ส.

“คือคุณพ่อบอกตลอดว่าการเป็น ส.ส.นั้น จะเซ็นโอนให้กันไม่ได้ มันไม่ใช่มรดก อยากได้ต้องทำเอาเอง ผมถามพ่อว่าจะต้องทำยังไง พ่อตอบว่า เอ็งทำยังไงก็ได้ให้ไปนั่งอยู่ในหัวใจประชาชน จากนั้นผมจึงออกเดินทางช่วยเหลือประชาชน แต่เสียดายมากที่ปี 2554 ผมแพ้เลือกตั้งแบบเฉียดฉิว เพราะตั้งแต่เริ่มนับคะแนนผมนำอยู่ตลอด คนที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์โทรมาแสดงความดีใจหลายคน รวมถึงคุณปลื้ม สุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน หลีกภัย ซึ่งรักและเคารพกัน โทรมาแสดงความยินดี บอกผมว่าได้เป็น ส.ส.สมใจแล้ว แต่สุดท้ายกลับมาแพ้อย่างน่าสังเกต เพราะใน กทม.เขตอื่นๆ มีบัตรเสียพันกว่าใบ แต่บางบอน หนองแขม ที่ผมลงนั้น เสียเกือบ 8 พันใบ ขอให้นับใหม่ก็ไม่นับ”

การเลือกครั้งนั้น “วัน” มีเวลาหาเสียงแค่ 3 เดือน หลังจากทราบว่าจะได้ลงสมัคร ส.ส. ซึ่งหลังจากพ่ายแพ้เลือกตั้ง เขาเดินสายทำงานทางสังคมอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดหาย

Advertisement

“รอบนี้ผมขอเกือบแพ้ก็แล้วกัน”

วันกล่าวอย่างภาคภูมิว่า มีความมั่นใจในพรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายเป็นรูปธรรม จับต้องได้ เป็นพรรคการเมืองที่มีนักบริหารมืออาชีพ

“เศรษฐกิจแย่ คนแก้ต้องเพื่อไทย”

“กทม.แข่งกันแค่ 2 พรรค คือเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้ประชาธิปัตย์มีแผล เพราะหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรค ไปเป่านกหวีดปี๊ดๆ ก่อม็อบไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วยังมาบอกว่ารักประชาธิปไตยมาโดยตลอด นั่นคือการกลืนน้ำลายตัวเอง ตอนนี้ก็กลืนนกหวีดติดคอไปแล้ว”

เลือกตั้งครั้งนี้แม้จะถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ “วัน” เตรียมแผนใช้โซเชียลมาช่วยหาเสียง พร้อมเดินเคาะตามประตูบ้านด้วย

“การเลือกตั้งครั้งนี้ ผมพยายามบอกกับเพื่อนๆ ให้มาช่วยกันเดินหาเสียง บอกเขาให้มาส่งพี่วันเข้าสภา ยืนยันว่าที่ผมทำทั้งหมดไม่ได้เพื่อหวังลบความเป็นอดีตของผม”

ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร “วัน” เห็นว่า ปัจจุบันประชาชนตื่นตัวเรื่องการเลือกตั้งมาก เพราะประเทศไทยร้างจากการเลือกตั้งมานานนับตั้งแต่ปี 2554 เช่นเดียวกับ “น้องกาโม่” อาชวิน อยู่บำรุง ลูกชายสุดรัก วัย 21 ที่ตั้งใจว่าจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรก

“กาโม่จะมาช่วยผมหาเสียงอยู่แล้ว ผมขายความหล่ออยู่แล้ว บางคนบอกว่ามีหล่อเล็ก หล่อใหญ่ แต่บ้านผมไม่เชื่อก็ดูได้ ดูพ่อผม ดูผม ดูลูกชายผม เรียกว่าหล่อทั้งตระกูล ส่วนกาโม่จะสนใจการเมืองหรือไม่นั้น ผมต้องทำให้เขาเห็นก่อน ให้เขาเดินตามผมช่วยหาเสียง ผมไม่รู้ว่าเขาสนใจหรือไม่ แต่เขาเรียนสังคมสงเคราะห์ ซึ่งแยกออกมาจากรัฐศาสตร์”

ในฐานะพ่อ “วัน” กล่าวถึงลูกชายอย่างภาคภูมิใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image