วันที่ 11 มกราคม นายนคร ชมพูชาติ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี 4 ผู้ผ่านการสรรหาเสนอชื่อเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แต่ไม่ผ่านการรับรองจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง กสม. โดยระบุว่า
ยังไม่แน่ใจว่า สนง.ช่วยเหลือประชาชนของสภาทนายความจะรับข้อร้องเรียนดังกล่าวหรือไม่ อยู่ที่ผลการประชุมวันที่ 17 ม.ค.นี้ หากมีมติรับช่วยเหลืออาจมีการตั้งคณะทำงานว่าจะดำเนินการอย่างไร จะฟ้องคดีหรือไม่ ส่วนตัวและทีมงานคุยกันแล้วว่าเข้าข่ายร้องเรียนศาลรัฐธรรมนูญ โดยต้องดูว่าผู้ร้องมีเหตุจะไปได้ถึงหรือไม่ หรืออาจจะต้องร้องผ่านทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ทั้งนี้ หากสภาไม่รับพิจารณา โดยส่วนตัวก็จะหาทางช่วยเหลือต่อไป จากการพูดคุยกับผู้ร้องทั้ง 4 คน คือ นางสมศรี หาญอนันทสุข, ผศ.ดร.จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร, นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ และนายสุรพงษ์ กองจันทึก 4 ผู้ผ่านการสรรหาเสนอชื่อเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กระแสข่าวการไม่เห็นด้วยกับ 4 ผู้ผ่านการสรรหา เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสรรหา กสม.เลย ไม่ว่าจะเป็นจุดยืนเรื่องที่ว่าบางท่านสนับสนุนการเลิกโทษประหาร หรือการเซ็นรับรองผู้ที่มีคดีใน ป.ป.ช. ซึ่งคดียังไม่มีสิ้นสุด หรือเหตุผลเรื่องการกลัวจุดยืนของเอ็นจีโอ แต่ปัญหาเกิดจากการไม่ยอมเปิดเผยกระบวนการพิจารณาใดๆ
“จะร้องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยให้มติของ สนช.ครั้งนี้เป็นโมฆะ ให้ผู้ได้รับการสรรหายังคงอยู่ในวาระต่อไป เพราะตอนนี้เมื่อ สนช.ไม่รับรองผล ผู้เข้ารับการสรรหาก็ไม่สามารถมาสมัครอีกได้ ขณะเดียวกัน เขายังถูกสังคมสงสัยว่าเป็นเอ็นจีโอที่ไม่ผ่านการรับรอง หรือถูกวิจารณ์ว่ามีส่วนไม่ดีอยู่ เวลาจะไปสมัครตำแหน่งใด องค์กรใดก็ติดขัด หลายคนจึงต้องเดินหน้าต่อสู้กับมติ สนช. ซึ่งหากศาลชี้ว่าโมฆะ ทั้ง 5 คนก็จะยังเป็นกรรมการสรรหาอยู่” นายนครระบุ
นายนครระบุต่อว่า เราเชื่อว่ามีการบล็อกโหวต คะแนนไม่รับรองกับรับรอง แต่ละคนมันใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ในประเด็นการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ที่ตามกฎหมายก็มีการตั้งคณะกรรมการสรรหาแล้ว แต่กลับมีการตั้งกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติอีกชุด สุดท้ายก็นำมาสู่การลงมติไม่รับรอง ด้วยเหตุอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีความชัดเจน เพราะไม่เปิดเผยโดยไม่มีเหตุที่สมควร เพราะการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นเรื่องใหญ่ที่โลกเฝ้ามองอยู่ ส่วนตัวผมมองว่าผิดกฎหมาย อีกทั้งประเทศเราถูกลดเกรดด้านสิทธิมนุษยชนเป็นบี เวลาไปประชุมก็ไม่มีสิทธิเสนออะไร งานนี้ไม่รู้จะถูกลดเป็นเกรดซีหรือเปล่า ทั้ง 4 คนยืนหยัดที่จะสู้เพราะเสียหาย
นายนครกล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในกระบวนการตรวจคุณสมบัติ เวลากรรมาธิการสัมภาษณ์ก็ไม่ให้เกียรติผู้เข้าสัมภาษณ์ มีการพยายามที่จะหาความผิดจากผู้เข้ารับการสรรหาให้ได้ สุดท้ายเวลากรรมาธิการนำเสนอในที่ประชุม ก็ไม่รู้นำเสนอในลักษณะไหน ไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อตรวจสอบกันไม่ได้ เรื่องนี้จึงต้องร้องต่อศาลให้ศาลตรวจสอบ สำหรับการยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการน่าจะทำได้ภายในเดือนนี้
