‘สดศรี’ยกหลักการกฎหมาย ยันกม.ชะลอโทษของ’เสรี’ไม่เหมาะสมกับไทย

“สดศรี” เปิดข้อกฎหมายเทียบ ข้อเสนอ”เสรี”เหมือนหลักเกณฑ์ ”การต่อรองคำรับสารภาพ” ชี้ ไม่เหมาะสมกับไทย เหตุใช้ระบบกฎหมายแบบซีวิลลอว์

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอออกกฎหมายรอการกำหนดโทษเพื่อการปรองดอง ว่า กรณีดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับกระบวนการต่อรองคำรับสารภาพ หรือ plea bargaining คือ ถ้าจำเลยให้คำสารภาพ ศาลก็สามารถลดโทษจากหนักเป็นเบาได้ เป็นกระบวนการทางอาญาที่มีมานานแล้ว โดยทางสหรัฐอเมริกาเคยทำกันเนื่องจากคดีในประเทศเขามีเป็นจำนวนมากกระบวนการเป็นระบบลูกขุน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียค่าใช้จ่ายมาก อัยการก็จะแจ้งต่อจำเลยว่าหากรับสารภาพก็จะแจ้งศาลเพื่อลดโทษได้ ส่วนประเทศไทยได้มีการพูดคุยกันมานานระยะเวลากว่า 50 ปีได้ว่าควรจะทำดีหรือไม่แต่ก็ไม่เคยมีการนำมาใช้ เพราะระบบกฎหมายบ้านเราเป็นระบบแบบซีวิลลอว์ หรือระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร ซึ่งระบบกฎหมายนี้จะไม่นำมาใช้กัน เนื่องจากมันขัดต่อหลักเกณฑ์ของกระบวนการพิจารณาคดีอาญา ขัดต่อหลักการพิจารณาค้นหาความจริง

นางสดศรี กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่ากระบวนการการต่อรองคำรับสารภาพมันเหมาะสมกับประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายแบบคอมมอนลอว์ เช่น สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ แต่ไม่เหมาะสมกับระบบกฎหมายแบบซีวิลลอว์แบบประเทศไทย ซึ่งถือหลักการดำเนินคดีอาญาทางกฎหมาย และกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายความของแผ่นดินมาต่อรองข้อกล่าวหาได้ ดังนั้นจึงคิดว่าข้อเสนอของนายเสรี ไม่น่าจะนำมาใช้กับประเทศไทยได้ เพราะหากจะนำมาใช้ก็ต้องแก้ไขกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทั้งหมดเลย อีกทั้งการต่อรองต้องคำนึงถึงผู้เสียหาย ผู้เสียชีวิต รวมทั้งทรัพย์สินที่เสียหายไปด้วย ดังนั้น ถ้าต้องการให้เกิดการประนีประนอมหรือปรองดองก็ควรจะออกกฎหมายให้ชัดเจนไปเลย แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าจะไม่ก่อเหตุขึ้นอีก หรือต้องมีจิตสำนึกในการกระทำของตัวเอง

“สำหรับกระบวนการต่อรองคำรับสารภาพในอเมริกาจะใช้กับคดีประเภทเยาวชน ซึ่งความผิดสามารถผ่อนปรนกันได้เพราะผู้กระทำผิดยังเป็นเด็กอยู่ ขณะที่ประเทศไทยได้มีการนำลักษณะแบบการต่อรองคำรับสารภาพมาใช้ในพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ที่กำหนดว่า ถ้าหากจำเลยรับสารภาพและนำไปสู่ผู้บงการหรือผู้ค้ายารายใหญ่ได้ ศาลก็อาจจะลดโทษให้ได้” อดีตกกต.กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image