‘บิ๊กตู่’ ขอพิจารณาก่อน หลังทหารภาค3 เรียกชาวบ้านปรับทัศนคติ ครอบครัวขอปล่อยตัว

“บิ๊กตู่” พบทูตพันธมิตรประเทศไทย ชี้พัฒนาประเทศเตรียมพร้อมสู่ยุค 4.0 ควบคุมไปกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ตอบสื่อสั้นๆ ปมทหารสอบ 8 ปชช.หลังดูคลองพิษณุโลก “เดี๋ยวดูให้”

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงนิวยอร์ก ได้นำคณะเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติจากประเทศต่างๆ กว่า 20 คนเข้าพบนายกฯ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) โดยอนุญาตให้สื่อโทรทัศน์เข้าไปบันทึกภาพ แต่ทางเจ้าหน้าที่กองงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ข่าวใดๆ อ้างว่าต้องรอเอกสารข่าวอย่างเป็นทางการจากสำนักโฆษกฯ กระทั่งการหารือเสร็จสิ้นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ปรากฏว่าทางกองงานสำนักโฆษกฯ ยังไม่ออกเอกสารข่าวแจกจ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์หรือทางเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลให้ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังแจ้งให้ผู้สื่อข่าวไม่ต้องไปดักรอสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทางเชื่อมตึกสันติไมตรีกับตึกไทยคู่ฟ้า

จากนั้นเวลา 11.00 น. นายหาน เจิ้ง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลเซี่ยงไฮ้เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และในเวลา 13.30 น. นายกฯได้เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ตึกสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าวด้วยการโบกมือส่งสัญญาณเท่านั้น ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะหันกลับมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่มีชาวบ้านได้เดินทางมาพูดคุยและให้ข้อมูลขุดลอกบึงหนองพลู อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ก่อนที่ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ทางเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) ได้เชิญตัวทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่มาถือป้ายเชียร์ รวม 8 คน มาพูดคุย ที่กองทัพภาคที่ 3 เพียงสั้นๆว่า “เดี๋ยวดูให้และพิจารณาก่อนเรื่องอะไร”

กระทั่งเวลา 15.49 น. พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เผยแพร่เครือข่ายพันธมิตรประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเดินทางมาเยือนไทย เพื่อศึกษาดูงาน ภายใต้โครงการพระราชดำริ และแนวการพัฒนาตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำไปปรับใช้ทั้งในระดับประเทศและท้องถิ่น ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

Advertisement

โดย พล.ต.วีรชนกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความมุ่งมั่นของไทย ในการส่งเสริมความเข้าใจและเพิ่มพูนความร่วมมือทั้งกับนานาประเทศในทุกระดับทั้งทวิภาคีและพหุภาคี โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการค้าและการลงทุน และพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ “ประเทศไทย 4.0” ควบคู่กับการจัดทำ “แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี” เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศบนพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิตอล โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเติบโตอย่างสมดุลย์และยั่งยืน นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญในการกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจในลักษณะไทยแลนด์บวกหนึ่ง และความร่วมมือในรูปแบบไตรภาคี เป็นความร่วมมือประเทศที่พัฒนาน้อย และประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อแต่ละประเทศที่มีระดับการพัฒนาต่างกันได้รับประโยชน์ในการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน

พล.ต.วีรชนกล่าวว่า นายกฯระบุว่าไทยในฐานะประธานกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (จี 77) ได้นำวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญในการส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งผลักดันการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลก อาทิ ปัญหาโลกร้อนจากสภาพอากาศแปรปรวน การบริหารจัดการน้ำ และการส่งเสริมสิทธิสตรี โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (เอสดีจี) โดยนายกฯกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “เมื่อทุกคนและทุกประเทศร่วมมือกัน เราจะเติบโตและแข็งแรงไป (สตรองเกอร์ ทูเกทเตอร์) ด้วยกัน ขอยืนยันว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งอยู่เบื้องหลัง

พล.อ.ประยุทธ์ยังตอบคำถามกรณีที่มีชาวบ้านได้เดินทางมาพูดคุยและให้ข้อมูลขุดลอกบึงหนองพลู อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ก่อนที่ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ทางเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) ได้เชิญตัวทั้งนักการเมืองท้องถิ่น และผู้ใหญ่บ้าน และผู้ที่มาถือป้ายเชียร์ รวม 8 คน มาพูดคุย ที่กองทัพภาคที่ 3 สั้นๆ ว่า “เดี๋ยวดูให้”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image