“จุฤทธิ์” ชี้รัฐบาลบริหารล้มเหลว ทำประชาชน “กินแพง กินไม่พอ รายได้ขึ้นไม่ทันค่าครองชีพ”
เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า นายสุวิทย์ควรเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพียงเริ่มก้าวเข้ามาเป็นนักการเมืองเต็มตัวก็มาทำการเมืองแบบย้อนยุคกล่าวพาดพิงพรรคอื่นแบบไม่มีเหตุผล ซึ่งนโยบายแก้จนแบบที่นายสุวิทย์พูดนั้น ใครๆ ก็พูดได้ แต่สำคัญต้องดูที่ผลงานไม่ใช่เพียงหลอกคนไปวันๆ แล้วเคลมเอานโยบายของรัฐบาลมาเป็นผลงานของพรรค เพราะพรรคของนายสุวิทย์เพิ่งตั้งขึ้นเพื่อการเลือกตั้ง หรือเพื่ออะไรทุกคนรู้ดี ดังนั้นวันนี้ถ้าจะบอกว่ามีผลงานแล้ว จึงไม่น่าจะใช่
“โดยเห็นได้จากเมื่อเร็วๆ นี้เว็บไซต์ฐานข้อมูลด้านค่าครองชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก นัมเบโอ เพิ่งเปิดเผยดัชนีค่าครองชีพทั่วโลก ปี 2562 กทม. เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นคือค่าอาหาร นอกจากนี้ยังมี ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ ที่ติดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนด้วย จากฐานข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลปัจจุบันในการบริหารประเทศที่อ้างว่าทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เพราะความจริงขณะนี้ประชาชน “กินแพง กินไม่พอ รายได้ขึ้นไม่ทันค่าครองชีพ” และรัฐบาลยังไม่ใส่ใจที่จะลงมาแก้ปัญหาอย่างจริงจังอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน สินค้าหลายชนิดยิ่งมีราคาสูงขึ้นจนน่าใจหาย เช่น ราคาหมูสามชั้นวันนี้ ขึ้นไปที่กิโลกรัมละ 160 บาท ซึ่งทุกปีไม่เคยแพงขนาดนี้ เรียกว่าเอาแบงก์พันไปจ่ายตลาดได้ของมาไม่ถึงครึ่งตะกร้า แล้วอย่างนี้ประชาชนจะอยู่ได้อย่างไร” รองโฆษก ปชป.กล่าว
นายจุฤทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้ล้มเหลวหลายด้าน และที่ล้มเหลวมากที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ วันนี้รายได้ประชาชนไม่เพิ่ม จนต้องนำเงินออมออกมาใช้จนหมดบัญชีแล้ว แถมยังซ้ำเติมประชาชนด้วยรายจ่ายที่สูงขึ้นทุกวันๆ นอกจากนี้รัฐมนตรีหลายคนยังไม่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และการที่ได้ตำแหน่งโดยไม่ได้มาจากประชาชนก็ทำให้ไม่เข้าใจประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นวันนี้การจะมาขอโอกาสจากประชาชนจึงไม่น่าจะทันแล้ว เพราะประชาชนจำได้ว่าในช่วง 4 – 5 ปี ที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตลำบากแค่ไหน
