‘สนธิรัตน์’ลั่นให้จับตา 3 สัปดาห์สุดท้าย โพลชี้ ‘พปชร.’ เรตติ้งดีขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 4 ขึ้นรถแห่หาเสียงจากศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งของ น.ส.ธณิกานต์ บริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เขตบางซื่อไปยังศูนย์สุขภาพชุมชนบางกระบือ 14 ซอยสามเสน 28 เขตดุสิต เพื่อร่วมรับฟังปัญหาและความต้องการจากแกนนำชุมชนเขตดุสิต เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาให้ชุมชนยั่งยืน ก่อนจะมาที่ร้านจ่าอูหมูกระทะ แยกสะพานแดง เพื่อพบปะประชาชน พร้อมนำคณะรับประทานหมูกระทะร่วมกัน ทั้งนี้นายสนธิรัตน์ได้คีบเนื้อหมูโชว์สื่อมวลชนพร้อมระบุว่า “กินหมูจะได้ชนะแบบหมูๆ”

นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ถึงกรณีการกำหนดกิจกรรมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ว่า พรรคกำลังเตรียมการอยู่ คาดว่าผู้บริหารพรรคจะหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติภายใน 1-2 วันนี้ แล้วจึงจะประสานพล.อ.ประยุทธ์เป็นลำดับต่อไป ดังนั้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปในต้นสัปดาห์นี้ ขณะนี้ได้หารือกับทีมงานของพล.อ.ประยุทธ์บ้างแล้ว หลังจากได้รับคำตอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในการที่จะให้มีโอกาสพล.อ.ประยุทธ์มาช่วยพรรคพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหาเสียงเลือกตั้งที่จ.นครราชสีมาเป็นที่แรกจริงหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในทางเลือกที่พรรคกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนจะเป็นกิจกรรมลักษณะใดนั้น ต้องดูเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย สิ่งที่พรรคให้ความสำคัญคือต้องใช้เวลานอกเวลาราชการ ตัวพล.อ.ประยุทธ์มีตารางงานค่อนข้างแน่น ก็ต้องดูความเหมาะสม ดูตารางงานของพล.อ.ประยุทธ์ และดูแผนการหาเสียงของพรรคควบคู่กันไป ส่วนจะเป็นกิจกรรมในรูปแบบไหนนั้น ต้องขอหารือกันก่อน การที่จะให้พล.อ.ประยุทธ์ไปช่วยอย่างไรมีหลายวิธี อาจจะดูเรื่องของเวลาที่เหลืออยู่ 3 สัปดาห์ให้มาก ต้องใช้เวลาอย่างลงตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ไปหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐได้ แต่ไปดีเบตไม่ได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ต้องขอความเป็นธรรมเรื่องดีเบต ถ้าพูดจริงๆ เป็นเรื่องของการแสดงวิสัยทัศน์ ในทางความคิดเห็น ซึ่งการดีเบตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะพูดจากัน และขึ้นอยู่กับว่า เป็นการดีเบตในลักษณะอย่างไร หลายครั้งมีโอกาสแสดงความคิดเห็นเต็มที่ และไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ ซึ่งพรรคคงต้องมาดูจะทำอย่างไรให้นายกฯได้มีโอกาสที่จะให้ประชาชนได้เห็นแนวความคิดของนายกฯ ที่ท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้ง จะทำงานอย่างไรให้พี่น้องประชาชน การสื่อสารกับประชาชนตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในฐานะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจ ได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์คิดอย่างไร ซึ่งการสื่อสารนายกรัฐมนตรีมีหลายรูปแบบ แต่ต้องอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง และอยู่ในสิ่งที่กกต.ตอบมา นั่นจะเป็นการกำหนดว่านายกรัฐมนตรีต้องทำอะไรบ้าง

เมื่อถามว่าการที่ให้พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวที จะทำให้พรรคการเมืองมองถึงความได้เปรียบเสียเปรียบความไม่เป็นกลาง หรืออาจจะทำให้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ถูกต้อง แต่ไม่ได้กังวลใจในสิ่งเหล่านั้น เพราะพรรคทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงตัวพล.อ.ประยุทธ์ทราบว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร และการจะมาครั้งนี้ ก็มาในฐานะนายกรัฐมนตรีที่พรรคเสนอชื่อ มาทำหน้าที่ตรงนั้น ในกรอบของหลักการที่สามารถทำได้

เมื่อถามว่าบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ที่โผงผางและค่อนข้างตรง จะทำให้กลายเป็นจุดอ่อนของพรรค หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปบอกอย่างนั้น พล.อ.ประยุทธ์อาจจะนิ่มนวลก็ได้ อาจจะน่ารักกว่าเดิมก็ได้ ขอให้ติดตาม เมื่อถามว่าขณะนี้คะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์มีมาก แต่ในตัวของพรรคยังไม่มากพอ มีความคิดเห็นอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เหลืออีก 3 สัปดาห์ ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง กระแสพรรค กระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ ยังเปลี่ยนแปลงได้อีกเยอะ ในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายพรรคเองก็มีวิธีการทำงานและมั่นใจว่า วันที่ 24 มีนาคม กระแสพรรคจะเป็นไปตามที่หวังไว้
เมื่อถามว่าพรรคได้ทำโพลติดตามความนิยมหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคทำตลอดเวลา เอาเป็นว่าผลเป็นที่น่าพอใจ ณ ขณะนี้งานของพรรคเดินได้ตามแผน กลับจากจังหวัดสุรินทร์เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ก็มั่นใจ และทีมงานก็กระจายทำงานทั่วประเทศ พรรคทำโพลตลอดเวลา และพรรคมั่นใจในโพล

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image