เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส. จิตภัสร์ กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่เวทีปราศรัย ชุมชนคลองสาม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วยนายเอกชัย นาคบุรินทร์ เขต 1 นายกฤชกุศล ส่องแสง เขต 2 นายณฤทธิ์ นาควงษม์ เขต 3 ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง เขต 4 นางพัณณ์ชิตา วันสิริภักดิ์ เขต 5 และนายอานนท์ นุ่นสูข เขต 6 ซึ่งมีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยกว่าพันคน โดยมีการขึ้นปราศรัยของผู้สมัครส.ส.สลับกับรองหน้าพรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในความเป็นนักการเมืองที่ต้องรับผิดชอบกับประชาชน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองและเป็นทางเลือกที่พูดเรื่องนโยบายครบถ้วนที่สุด การเลือกตั้งในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ขั้วชัดเจน ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ซึ่งก็ชูนโยบายตามสไตล์ของแต่ละพรรคแต่ทำไม่ได้ อย่างเช่นพรรคเพื่อไทยชูนโยบาย 6 เดือน แก้ปัญหาราคาข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนา จะเห็นได้ว่าการแก้ปัญหาราคาของพรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำได้ ที่ทำได้คือหนี้ได้สร้างเอาไวในเรื่องรับจำนำราคาข้าวจนมีหนี้พอกพูนนับแสนล้าน ส่วนพรรคพลังประชารัฐคิดไม่เป็นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทุกวันนี้สินค้า แพงขึ้นแพงขึ้นชัดเจนว่าการแก้จนลำดับแรกนี่คือการทำให้พี่น้องส่วนใหญ่มีรายได้ที่มั่นคงเสียตอนนี้ นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจน แก้จน สร้างคน สร้างชาติ อย่างเช่นข้าวตอนนี้เราจะประกันที่ 10,000 บาท ถ้าพี่น้องเกษตรกรขายข้าวได้ราคาสูงสุดว่า 7000 บาทรัฐบาลก็จะโอนเงินมาให้อีก 3,000 บาทที่เป็นส่วนต่างให้เกษตรกรมีรายได้เสมือนขายข้าวได้ 10,000 บาท
“ซึ่งนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็ยุคจำนำข้าวและสุดท้ายคนทำนโยบายถูกศาลตัดสินว่าทุจริตติดคุกมีการยึดทรัพย์วันนี้พรรคเพื่อไทยก็ยังหาเสียงต่ออีก 6 เดือนจะทำราคาข้าวดีขึ้น ความต่างในความพร้อมจะมาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องมองได้ชัดเจน”
“นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ ร่อนหนังสือเตือนทุกพรรคการเมืองเวลาหาเสียงให้คำนึงถึงเรื่องภาระงบประมาณให้คำนึงถึงเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจทั้งหลาย ผมว่าความจริงท่านไม่ต้องส่งหนังสือถึงทุกคนแหละครับ ท่านควรจะส่งหนังสือถึงพลังประชารัฐพรรคเดียว เพราะเป็นพรรคที่กำลังจะลักคนอื่น เอานโยบายซึ่งตัวเองไม่เคยปฏิบัติมา 5 ปี แต่เห็นคนอื่นจะทำอะไรก็บวกตัวเลขเข้าไปเพื่อมาเร้าใจประชาชนแต่ประชาชนรู้หมดแล้ว รัฐบาลก็ทำไม่ได้ ถ้าทำได้ทำไมรัฐบาลนี้สามารถทำให้คนจนในประเทศไทยซึ่งสมัยผมเป็นนายกฯ มีเพียง 7 ล้านคนวันนี้กลายเป็น 14 ล้านคน ซึ่ง 5 ปี รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ทำคนจนเพิ่มอีก 7 ล้านคน เป็นตัวเลขรัฐบาลเอง ไม่ใช่ตัวเลขที่ผมกล่าวหามาจากไหน ”
“เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เงินผู้อายุเพิ่มเป็น 1,000 บาท เงิน อสม. เพิ่ม 1,000 บาท เงินผู้พิการจาก 800 บาท เพิ่มเป็น 1,000 บาท ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ แก้จน สร้างคนสร้างชาติ ช่วยเลือก ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดปทุมธานี ทั้งหมด 6 เขต”