“ชวน” กลับ ‘ตรัง’ บ้านเกิดช่วย “หมอสุกิจ” หาเสียงโค้งสุดท้าย ไม่ประมาทคู่แข่ง เผยสมัยเป็น รมว.กลาโหมไม่เคยสั่งทหารโกงการเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 22 มีนาคม ที่บ้านนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี เลขที่ 183 ถนนวิเศษกุล อ.เมือง จ.ตรัง ได้นำรถแห่ประชาสัมพันธ์หาเสียงโดยมี สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 14 ขึ้นรถหาเสียงให้กับนายแพทย์สุกิจ ตระเวนตามถนนภายในเขตเทศบาลนครตรัง โดยบอกกับพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดตรัง วันที่ 24 มีนาคม ให้เลือกนายแพทย์สุกิจ เบอร์ 14 ได้ ส.ส. ทั้งนายแพทย์สุกิจ นายสมบูรณ์ และนายชวน หลีกภัย
นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางกลับมาจังหวัดตรัง บ้านเกิด โดยก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งมาขอร้องให้ตนเองขึ้นไปยังกรุงเทพฯ เพื่อไปปราศรัยที่ลานคนเมือง กทม. ซึ่งปกติตนเองจะไม่ขึ้นไป แต่ว่านายอภิสิทธิ์ ขอร้องให้ขึ้นไปให้เวลา 45 นาทีในการปราศรัย ที่นั่นต้องไปตามที่นายอภิสิทธิ์ขอร้องมา เพราะฉะนั้นก็มีเวลาอยู่ในช่วงเช้าจนถึงเที่ยงจึงใช้เวลาที่มีอยู่ ขึ้นรถแห่หาเสียงให้กับ นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์
นายชวน กล่าวว่า ปกติหากมีการเลือกตั้งก็ทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว เลือกตั้งครั้งนี้เหลือเวลาก่อนวันเลือกตั้ง ใน 2 วันก็ขึ้นรถแห่เวียนอย่างนี้แต่เที่ยวนี้ยังเวียนไม่ทั่ว เพราะมีเวลาจำกัด ในการหาเสียงช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นปกติแต่อย่างน้อยก็ให้พี่น้องประชาชนได้กระตือรือร้น บางคนอาจจะถึงวันเลือกตั้งจึงตัดสินใจ การเลือกตั้งครั้งนี้ นี้ไม่เหมือนการครั้งที่ผ่านมา ที่ครั้งนี้คะแนนทุกคะแนนมันมีผล ถ้าเลือกนายแพทย์สุกิจ อัตโถปกรณ์ เบอร์ 14 ได้ตนเองก็จะได้ด้วย ถ้าไม่ลงให้หมอสุกิจตนเองก็ไม่ได้ มันอยู่ในระบบใหม่ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จะมีเบอร์พรรคให้เลือก แต่รอบนี้ไม่มีเบอร์พรรค เบอร์ของผู้สมัครจะรวมไปถึงเบอร์พรรคด้วย และบัญชีรายชื่อด้วย เพราะฉะนั้นประเมินว่าในบางพรรคอาจจะไม่มีระบบบัญชีรายชื่อเลยก็ได้ ถ้าเขาได้ ส.ส.ในเขตมาก จึงต้องขอร้องพี่น้องให้ไปลงคะแนน
เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ได้เสียงกว่าร้อยละ 90 รอบนี้พรรคการเมืองและผู้สมัครมากกว่าเดิมหลายเท่า 37 พรรค คะแนนก็คงจะเกลี่ยกันไปพอสมควร ผมเองจึงต้องขอร้องพี่น้องว่าอย่าเกรงใจ หรืออย่าไปมองภาพส่วนตัว ให้มองภาพรวม ว่าเราต้องการให้ใครเป็นรัฐบาล ถ้าต้องการให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อก็ต้องเลือกคนรัฐบาล อย่างที่ตนเองประกาศว่าจังหวัดตรังได้รับผลกระทบ จากรัฐบาลชุดนี้มากที่สุด เพราะว่ารายได้ของจังหวัดตรังของครัวเรือน ลดต่ำมากที่สุด ที่อื่นลด 3,000 4,000 5,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน แต่ของเรา ลดประมาณ 14,000 บาท ต่อเดือนต่อครัวเรือนเพราะฉะนั้น เพราะฉะนั้นเราคงรับนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ไม่ไหว ถ้าอยู่ต่อไปก็คงจะยาก จะต้องให้คนที่มีฝีมือเข้าไปทำงาน
“ผมก็เชื่อรัฐบาลทุกชุดก็ไม่ได้แกล้งประชาชนหรอก แต่ว่าความรอบรู้ในแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน หมอสุกิจก็คือผู้ ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าทีมทำเรื่องยางพารา เพราะฉะนั้นสมมุติหากยางราคาดีขึ้นหน่อยหนึ่ง สมมุติว่าได้ราคายางที่ 60 บาทสถานการณ์บ้านเราก็จะเปลี่ยนเลย เพราะว่าหัวหน้าอภิสิทธิ์พรรคประชาธิปัตย์ก็รับรองแล้วว่า สมมุติว่าขายยางได้เท่าไหร่ก็ตาม ก็ประกันรายได้ ส่วนที่ไม่ถึงเขาชดเชยให้ ถ้ามันเกินรัฐบาลไม่ต้องชดเชยให้ จึงเป็นหลัก ประกันเบื้องต้นที่แน่นอนที่สุดว่า เศรษฐกิจในบ้านเราถ้าได้นโยบายนี้มาทำงาน เชื่อว่าเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง ผู้สมัครตรังจะได้ทั้ง 3 เขต ตนเองจะไม่ประเมินไม่ประมาทคนอื่น ทุกครั้งที่มีเลือกตั้ง ตัวเองก็ไม่เคยไปบอกเราต้องได้หมด ก็ต้องเคารพความคิดของประชาชน ในฐานะที่ชาวบ้านเขาสนับสนุนเรามา 15 สมัย 50 ปี ตนเองก็เป็นหนี้บุญคุณและเราก็ทำงานสุดความสามารถ เที่ยวนี้ถึงแม้จะมีการแข่งขันมาก แต่ตนเองเชื่อว่าพี่น้องชาวจังหวัดตรังก็มีความภาคภูมิใจ ในสิ่งที่ได้ทำมาในอดีต” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวอีกว่า จากการที่มีกระแสข่าวทหารมีการตรวจค้นนั้น ตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องตรงนี้ แต่ว่าก็ได้ยินพฤติกรรมบางอย่าง ที่รัฐบาลชุดนี้ใช้ในขณะนี้ ซึ่งก็ต้องระวังและในฐานะที่ตนเองเคยเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ตนเองเคยบอกเสมอว่า ตนเองจะไม่ใช้กองทัพ เป็นที่ซื้อตัว ส.ส. จะไม่ใช้หน่วยงานเป็นที่วางแผนโกงการเลือกตั้ง เที่ยวนี้ทำให้ได้อย่างที่พวกเราทำก็จะทำให้ภาพพจน์ของกองทัพ ไม่เสียหาย
