“เพื่อไทย” กำหนดวาระประชุมใหญ่-ท่าทีของพรรค พร้อมเตรียมกระจายงานให้ทุกพื้นที่ และกำหนดทิศทางทางการเมืองคนรุ่นใหม่ ก่อนให้เจ้าหน้าที่พรรครดน้ำดำหัวเป็นการภายใน
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าแกนนำพรรค และฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ประชุมหารือกันถึงข้อกฎหมายเรื่องสูตรคำนวณที่นั่ง ส.ส. และวาระการประชุมที่จะประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 21 เมษายนนี้ ก่อนที่ช่วงบ่าย พรรคได้มีการจัดให้สมาชิกและเจ้าหน้าที่พรรครดน้ำดำหัวแกนนำพรรค อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค เป็นการภายในเล็กๆ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพรรค พท.จะมีการเรียกประชุมใหญ่ในวันที่ 21 เมษายนนี้ พรรค พท.จึงจะไม่จัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวใหญ่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เหมือนที่เคยจัดทุกปี
จากนั้นเวลา 14.00 น. แกนนำพรรคได้แถลงผลการประชุมพรรค โดยยายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการประชุมเพื่อเตรียมการตามข้อบังคับพรรคในการที่จะดำเนินการประชุมใหญ่ประจำปี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนนี้ เวลา 10.0 น. ที่พรรค พท. โดยในปีนี้เราจะต้องรายงานงบการเงินตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ซึ่งยังไม่เคยมีการรายงานที่ชัดเจนเนื่องจากมีการทำรัฐประหารขึ้นและไม่สามารถจัดประชุมพรรคได้
นอกจากนี้ วันนี้ได้มีการกำหนดรายละเอียดของการประชุมในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งองค์ประชุมจะต้องประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคกึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 13 ท่าน ตัวแทนสาขาพรรคทั้ง 4 ภาคอย่างน้อย 2 สาขา และเราจะเชิญผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคทั้ง 250 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 97 คน โดยองค์ประชุมในการประชุมใหญ่วันนั้นจะมีทั้งสิ้นประมาณ 419 คน ซึ่งวาระสำคัญของการประชุมในวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนนั้น คือ 1.วาระประจำ เช่น การรายงานการดำเนินงาน 2.จะมีการสรุปสถานการณ์ทางการเมืองทั้งหมดให้องค์ประชุมในวันนั้นทั้งหมดได้รับฟัง 3.ท่าทีทางการเมืองของพรรค พท.ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไป
โดยเราจะยืนยันและทำความเข้าใจกับสมาชิกทั้งหมดว่า เพื่อให้การดำเนินกิจการทั้งหมดของพรรคเป็นเอกภาพเราจะยืนยันทุกคำมั่นสัญญาที่พูดไว้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ทุกนโยบาย หรือทุกอย่างที่ได้แถลงการณ์ไว้กับพี่น้องประชาชนจะนำมาดำเนินการ หากได้เป็นรัฐบาลก็พร้อมที่จะนำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นไปดำเนินการทันที แต่หากไม่ได้เป็นรัฐบาลในฐานะพรรคการเมืองก็จะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาดำเนินการตามศักยภาพที่พอจะทำได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เราเตรียมที่จะขยายบทบาทและขยายทิศทางการดำเนินงานทางการเมืองของพรรค พท.ลงไปในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับชัยชนะหรือพื้นที่ที่ยังไม่สามารถได้รับความสำเร็จจากการเลือกตั้งก็ตาม เราจะยังคงทำงานต่อให้กับพี่น้องประชาชน และเราจะกำหนดคนรุ่นใหม่ของพรรคให้วางทิศทางทางการเมืองเพื่อจะขยายการดำเนินการทางการเมืองของพรรคในมิติต่างๆ
