ครม.อนุมัติงบบรรเทาภัยแล้ง 1.2 พันล้าน เพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำ-น้ำประปาหมู่บ้าน

ครม.อนุมัติงบบรรเทาภัยแล้ง 1.2 พันล้าน เพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำ-น้ำต้นทุน-น้ำประปาหมู่บ้าน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 เมษายน ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติงบกลางประจำปี 2562 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในโครงการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำและเพิ่มน้ำต้นทุน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนในปีนี้ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพแผนงานบูรณาการจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศเสนอ

พล.ต.อธิสิทธิ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากสทนช. ได้มีการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในฤดูแล้ง เพื่อบริหารจัดการเชิงป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่ายังมีพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งอยู่ ทางสทนช.จึงได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายและเชิญ 10 หน่วยงานที่มีภารกิจด้านน้ำมาร่วมกันเพื่อหารือแนวทางบรรเทาปัญหาภัยแล้งเฉพาะหน้าโดยเร่งด่วน รวมถึงในระยะกลาง จึงเป็นที่มาของโครงการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำและน้ำต้นทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ รวมถึงเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่ขาดแคลนให้สอดคล้องตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยพื้นที่เป้าหมายแบ่งเป็น 4 ประเภท 1.พื้นที่ประกาศภัยแล้งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคปี 2561-2562 รวมทั้งสิ้น 5 จังหวัด 2. พื้นที่ที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ปี 2561-2562 รวม 18 จังหวัด 3.พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรนอกเขตชลประทานปี 2561-2562 รวม 9 จังหวัด และ 4. พื้นที่เกิดภัยแล้งซ้ำซาก ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการแหล่งน้ำของชุมชนเพิ่มขึ้นอีก 11 จังหวัด ทั้งนี้ จะต้องมีระยะเวลาการดำเนินการโครงการให้เสร็จภายใน 90 วัน โดยมีโครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการทั้งสิ้น 144 โครงการ งบประมาณ 1,226 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำได้ 28.12 ล้านลูกบาศก์เมตร มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 85,474 ครัวเรือน แบ่งเป็นโครงการในพื้นที่เป้าหมาย 99 โครงการ งบประมาณ 921 ล้านบาทเศษ และโครงการนอกพื้นที่เป้าหมาย 45 โครงการ งบประมาณ 304 ล้านบาทเศษ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image