ฮั่นแน่! 5 ส.ส.พปชร.ลงมติเลื่อนโหวต ปธ.สภาผิดฝั่ง ด้าน 7 พรรคลุ้น ส่ง ‘สมพงษ์’ ท้าแข่ง ‘นายหัวชวน’

ฮั่นแน่! 5 ส.ส.พปชร.ลงมติผิดฝั่ง ทำญัตติตัวเองเลื่อนโหวต ปธ.สภาล้ม จับพิรุธ ‘เสี่ยแฮงค์’ ขาน 2 ครั้งก่อนเดินไปนาย ‘สมศักดิ์-สุริยะ’ ด้าน 7 พรรคลุ้น ส่ง ‘สมพงษ์’ ท้าแข่ง ‘นายหัวชวน’

เมื่อเวลา 13.05 น. วันที่ 25 พฤษภาคม นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาชั่วคราว เรียกที่ประชุมสภากลับมาพิจารณาอีกครั้ง แต่ยังไม่มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กลับเข้าที่ประชุม ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กดดันให้เรียก ส.ส.พลังประชารัฐเข้าสู่ที่ประชุม เรียกร้องให้นายชัยกดออดเรียกอีกครั้ง เพราะเลยเวลามา 5 นาทีแล้ว ซึ่งนายชัยได้กล่าวติดตลกว่า “ขอให้สมาชิกรอสักครู่ เพื่อนกำลังทุกข์ ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐกำลังประชุมเครียดอยู่ห้องเบอร์ 14 เราหาเสียงนานกว่านี้ยังรอได้ ดังนั้น ก็รออีกสักหน่อย ถือว่าประธานขอก็แล้วกัน”

อีก 15 นาที นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ามาแจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากสมาชิกพรรคมีการหารืออยู่ข้างนอก จึงขอเวลา 5 นาที ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเริ่มทยอยเข้ามาในห้องประชุม โดยมีนายวิรัชเดินไปพูดคุยกับแกนนำพรรคต่างๆ ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเคร่งเครียด

ต่อมา เวลา 13.25 น. นายชัยได้ประกาศว่า ขณะนี้มีสมาชิกจำนวน 478 คน จาก 497 คน โดย นายวีระกร เจ้าของญัตติ ยืนยันให้เลื่อนการพิจารณาออกไป แต่เจอ นพ.ชลน่าน อาศัยข้อบังคับประชุม 47 (6) ขอปิดอภิปราย เพราะได้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว ฟังได้พอประมาณว่า เป็นความไม่พร้อมของสมาชิก ภาพที่พักการประชุมชัดเจนว่า ยืนยันขอเลื่อนประชุมออกไป พวกตนจาก 7 พรรคเห็นว่าควรปิดอภิปราย และให้ลงมติ นายชัยจึงให้ที่ประชุมสภาลงมติโดยเปิดเผยขานชื่อเรียงคนว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะเลื่อนการประชุมออกไป

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ระหว่างการลงมติด้วยการขานชื่อเรียงบุคคลนั้น ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายต่างลงมติโดยยืนยันในจุดยืนของฝ่ายตนเอง โดย ส.ส. 7 พรรคซีกประชาธิปไตย นำโดย พรรคเพื่อไทย และอนาคตใหม่ลงมติไม่เห็นด้วยกับญัตติให้เลื่อนวาระออกไป ขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมนำโดย พรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ต่างมติลงเห็นด้วยในญัตตินี้ ยกเว้น นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลงขานงดออกเสียง รวมถึงนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ ได้ขานไม่เห็นด้วยถึง 2 ครั้ง ก่อนที่นายอนุชาจะเดินไปหานายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพรรคพลังประชารัฐเดินเข้ามาคุยด้วย

ทั้งนี้ ภายหลังที่ลงมติครบ 500 คน ก่อนที่จะประธานจะประกาศผลการลงมติ ได้มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 5 คน ประกอบด้วย นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก นายอัฎฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี และนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา ได้ลุกขึ้นแก้มติไม่เห็นด้วย มาเป็น เห็นด้วย ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นประท้วงอย่างหนักว่า การขอแก้มติไม่ชอบด้วยข้อบังคับ เมื่อลงมติแล้วถือว่าลงเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งระหว่างลุกขึ้นประท้วงในเรื่องการขอกลับมติของ 5 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาตตใหม่ ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า “ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเราอยู่ใต้การปกครองของทหาร ผมขอร้องให้ทำตามกติกาส มาชิกพรรคพลังประชารัฐได้พูดไม่เห็นด้วยถึง 2 ครั้ง แล้วจะมาแก้ไขตอนท้ายตนว่าไม่ถูกต้องคามข้อบังคับการประชุม เพราะเราควรที่จะได้ประมุขของสภาได้แล้ว” ทำให้นายรังสิมันต์ถูก ส.ส.พลังประชารัฐโห่ใส่ในช่วงการอภิปราบด้วย

ภายหลังจากการโต้เถียงกันเป็นเวลา 1 ชั่วโมงจนหาข้อยุติไม่ได้ นายชัยได้ขอให้สมาชิกยกมือโหวตว่า สมาชิกจะขอแก้ไขมติได้หรือไม่ แต่ก็ไม่เป็นผล นายชัยจึงขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ช่วยชี้แจงให้เข้าใจก่อน โดยนายอภิสิทธิ์อภิปรายว่า ประธานต้องชี้แจงก่อนว่า ใช้ข้อบังคับไหนให้สมาชิกลงมติ เพราะเรื่องนี้ไม่มีในข้อบังคับ และหากจะลงมติจริงก็ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ นั่นคือ ทำรายงานบันทึกการลงคะแนนของแต่ละคน และต้องเผยต่อสาธารณชนด้วย การลงคะแนนด้วยการยกมือจะบันทึกอย่างไร ซึ่งประธานบอกว่า เอาตามจำนวนคะแนนมือ แต่จะวกกลับไปที่เก่าและทำให้เสียเวลา

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้ลุกขึ้นเห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ โดยระบุว่า เมื่อลงมติแล้ว จะมาเพิ่มได้ภายหลังเฉพาะกรณีที่ยังไม่ใช่สิทธิ และยังไม่มีการรวมสรุปคะแนน แต่เมื่อใช้ไปแล้วจะมาใช้ซ้ำแก้มติตัวเอง ทำไม่ได้ สภาจะเอาเสียงข้างมากโดยไม่มีข้อบังคับแก้มตินั้น ไม่มีปฏิบัติมาก่อน ตนอยู่สภามาเกือบ 40 ปี ไม่เคยเกิดขึ้น ใครจะแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่การลงมติโดยไม่ได้ใช้ข้อบังคับนั้นไม่ได้

ด้านนายชัยชี้แจงว่า ตนเห็นด้วยที่จะกลับมาแก้มติไม่ได้ แต่ถือเป็นการอนุโลม ทำให้ ส.ส.หลายคนไม่พอใจส่งเสียงโห่ขึ้นมาทันที โดยนายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นอภิปรายทันทีว่า ประธานมีอำนาจวินิจฉัยตามข้อบังคับ แต่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่วินิจฉัยไป แต่ไม่สามารถขอมติที่ประชุมให้รับรองแก้ไขให้ผู้ใดได้ ถ้าเราเริ่มอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้เปลี่ยนได้จะอันตรายมาก วันข้างหน้าเสียงข้างมากก็จะวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่งได้

ระหว่างนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังลุกขึ้นกดดันนายชัยให้ประกาศผลคะแนนเบี้องต้น โดยนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า คะแนนที่ลงไปแล้วไม่สามารถแก้ได้เหมือนกับการเข้าหากาผิดแล้วจะกลับไม่ได้ ดังนั้น ตอนนี้ประธานต้องขานผลคะแนน เพราะเวลานี้งูเห่าเกิดขึ้น 4-5 ตัวแล้ว กระทั่งในที่สุด นายชัยประกาศคะแนนเบื้องต้นว่า สมาชิกเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยให้เลื่อนการเลือกประธานสภาฯออกไป ทำให้นายชัยเดินหน้าสู่ระเบียบวาระทันที

จากนั้น เวลา 15.40 น. เมื่อสู่ระเบียบวาระการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชัยได้แจ้งว่า ให้มีการเสนอชื่อประธานสภาฯได้ท่านละ 1 ชื่อ และมีผู้รับรอง 20 คน โดยนายณัฐพล ทีปสุวรรณ​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ ได้เสนอนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ท้าชิง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image