“ภูมิธรรม” ชี้ “เพื่อไทย” ยังไม่ได้เคาะตัวหน.พรรค-ว่าที่ผู้นำฝ่ายค้าน

“ภูมิธรรม” ชี้ “เพื่อไทย” ยังไม่ได้เคาะตัวหัวหน้าพรรคหรือผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่ ใช้เวลาอย่างเร็วที่สุด 1 สัปดาห์ในการดำเนินการ บอก 7 พรรคคุยกันตลอด จะใช้เวทีสภาอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 7 มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับโครงสร้างพรรคพท. โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ตามเงื่อนไขทางกฏหมายพรรคที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ผู้นำของพรรคที่ได้เสียงข้างมากจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ของพท.มีปัญหาเพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าไปอยู่ในสภา ดังนั้น เราจึงต้องหารือกันและพิจารณากันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่หรือไม่ ซึ่งถ้าเราตัดสินใจจะมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรสิ่งที่ต้องดำเนินการคือเราจะต้องไปหารือกับหัวหน้าพรรคในขณะนี้ ซึ่งหากหัวหน้าพรรคท่านลาออกแล้วเปิดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ตามไทม์ไลน์เร็วที่สุดคือสัปดาห์หน้า จากนั้นต้องเชิญประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี ซึ่งจะต้องทำให้แล้วเสร็จก่อนการประกาศตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งตนประเมินว่าน่าจะไม่เกินวันที่ 20 มิถุนายนนี้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสออกมา 2 รายชื่อ ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้เป็นข่าวรือทั้งหมด เราจะต้องพิจารณาและหารือกันในคณะกรรมการบริหาร รวมถึงสมาชิกทั้งหมด โดยชื่อนายสมพงษ์นั้นตนเห็นมาประมาณ 2 วันแล้ว ซึ่งตนก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าเป็นชื่อที่มีความเหมาะสมเพราะเป็นส.ส.ของพรรคที่มีความอาวุโส เคยทำงานเป็นรัฐมนตรี ทำการเมืองมายาวนาน ตลอดจนเป็นที่ยอมรับของสมาชิก ขณะที่ชื่อน.อ.อนุดิษฐ์ ตนเพิ่งเห็นชื่อเมื่อวาน ซึ่งท่านก็เป็นบุคคลที่มีบทบาทในพรรค แต่ตัวบุคลากรทั้งหมดยังไม่เป็นที่ยุตติแต่อย่างใด ทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอน

เมื่อถามว่า การที่มีชื่อออกมา 2 ฝ่ายลักษณะนี้อาจถูกมองว่าพรรคแบ่งเป็นสองขั้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีการเสนอชื่อหลายขั้ว หลายฝ่าย เป็นเพียงชื่อที่สื่อมวลชนนำเสนอมา ภายในพรรคขนาดนี้คุยกันยังไม่เห็นว่ามีเสียงแตกอะไร ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องของความแตกแยกแต่เป็นเรื่องของการแบ่งกันทำหน้าที่

Advertisement

เมื่อถามว่า การปรากฏออกมาสองชื่อแบบนี้ทางอีสานจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีส.ส.มากที่สุด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ครั้งที่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ความเห็นที่เหมือนหรือต่างกันกันเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปเป็นธรรมดา แต่ดูที่เสียงโหวตในการตัดสินใจครั้งนี้สิว่าพรรคพท. และแนวร่วมของพรรคทั้ง 7 พรรคของเราได้มีการคุยกัน และปรึกษาหารือกันอย่างชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก และเหมาะสม

เมื่อถามว่า วันนี้สภาเปิดแล้วต่อจากนี้ทั้ง 7 พรรค จะมีแผนอย่างไรในการดำเนินการในสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลังจากนี้ทั้ง 7 พรรคคงจะได้มีการหารือกันต่อไป ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันโหวตประธาน และรองประธานสภา รวมถึงวันโหวตนายกฯ พิสูจน์ความร่วมมือของ 7 พรรคการเมืองว่าไปในทิศทางเดียวกัน จากนี้หน้าที่ของเราคือการเป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ ที่ทำหน้าที่ให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องผิดหวัง และจะรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งเสียงในสภาระหว่างเรากับฝ่ายที่เป็นรัฐบาลนั้นก้ำกึ่งกันมาก ซึ่งเสียงที่ก้ำกึ่งนี้มีความหมาย เราจะพยายามใช้เวทีรัฐสภาให้มีความหมายที่สุด จะไม่เล่นเกมการเมืองที่ไร้สาระหรือไม่สร้างสรรค์ แต่เราจะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้ เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบ และทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อถามว่า ขณะนี้ทางฝั่งพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กำลังรวบรวมและยื่นรายชื่อเพื่อเอาผิดส.ส.กรณีปมถือหุ้นสื่อกว่า 40 คน เพื่อเป็นการเตะตัดขาให้ฝ่ายรัฐบาลกลายเป็นเสียงข้างน้อย นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าเรียกว่าเป็นการเตะตัดขาเลย ตนคิดว่า กระบวนการทั้งหมดคือเราอยากเห็นสภา และกระบวนการต่างๆมีการจัดการอย่างยุติธรรม และมีหลักเกณฑ์ ในเมื่อเราจะวางมาตรฐานในการดำเนินการอะไรกับบางท่าน บางส่วน ก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ถ้าความผิดเดียวกันเกิดขึ้นกับใครหรือฝ่ายไหนก็ต้องผิดเหมือนกัน ถ้าไม่ผิดก็ต้องไม่ผิดเหมือนกัน สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่กำลังทำคือการที่ให้เห็นว่ามีกรณีแบบเดียวกันอยู่ ผู้มีอำนาจหน้าที่จะต้องวินิจฉัยให้ถูกต้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image