‘กรวีร์’ จวก​ ต่อรองเก้าอี้ รมต.น่าเบื่อ​ ชี้ ถ้า ภท.ดันนโยบายไม่สำเร็จ ลต.ครั้งหน้ารับกรรม

“กรวีร์” จัดหนัก​ จวก​ ต่อรองเก้าอี้รมต.น่าเบื่อ​ มีแต่คนเก่า-ทัศนคติเดิม​ ระบุ​ “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” เป็นรัฐบาล​ คงไม่เป็นแบบนี้​ แนะ​ “ภูมิใจ​ไทย” ยอมรับความเห็นต่าง​ ควรเรียก​ “ส.ส.โต้ง” มาคุย​ ไม่ใช่ตั้งกรรมการสอบ​ ชี้​ โหวต​ “ประยุทธ์” นั่งนายกฯ​ เป็นต้นทุนของพรรค​ หากดันนโยบายไม่สำเร็จ​ เลือกตั้งครั้งหน้าเตรียมรับชะตากรรม

เมื่อเวลา 11.30 น.​ วันที่​ 15​ มิถุนายน​ มีการอภิปรายในหัวข้อ “คนหนุ่มสาวกับการสร้างการเมืองแบบใหม่ในสังคมไทย” ร่วมอภิปรายโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดำเนินรายการโดย ผศ.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

โดยในช่วงหนึ่ง​ นายกรวีร์ได้พูดถึงการแบ่งสรรเก้าอี้รัฐมนตรี​ในปัจจุบันว่า​ หลังการเลือกตั้ง ผลพวงของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่คนบางพวกบอกว่าได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน​ เราพยายามบอกว่าจะปฏิรูปการเมือง​ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งคือสิ่งที่พวกเราอยากเห็นหรือไม่ สำหรับตนไม่ใช่การปฏิรูปที่อยากเห็น เรากำลังพาการเมืองกลับไปสมัยเมื่อหลาย 10 ปีก่อน หลังการเลือกตั้งผ่านมา 2 เดือนเศษ เรายังไม่เห็นหน้าตารัฐบาล ถามว่านี่คือสิ่งปกติของการเลือกตั้งหรือไม่ เราจะได้เห็นภาพการต่อรองของพรรคการเมืองเพื่อเข้าไปมีอำนาจในรัฐบาล รวมถึงพรรคภูมิใจไทยด้วย ซึ่งเราให้เหตุผลว่านี่คือการต่อสู้เพื่อที่จะนำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนได้ไปผลักดันในสภา เราสัญญาเรื่องกัญชาเสรีไว้ ถ้าให้เราไปดูกระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ เราคงไม่ได้ทำกัญชา ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยสัญญากับประชาชนไว้ และคือสิ่งที่เราตั้งใจจะเข้าไปผลักดัน

นายกรวีร์กล่าวว่า สิ่งที่เราได้เห็นและคงรู้สึกเหมือนกัน คือเราเห็นการต่อรองทางการเมืองจนน่าเบื่อหน่าย ตนคิดว่าวันนี้พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ​อาจต้องไปเป็นฝ่ายค้าน แต่เกมการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ในอนาคต พรรคอนาคตใหม่หรือพรรคเพื่อไทย (พท.)​ อาจมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ภาพการเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ อาจจะไม่มีการต่อรองแบบนี้ก็ได้ แต่เพราะคนที่เป็นตัวผู้เล่นในการต่อรองยังเป็นผู้เล่นคนเก่า เขาจึงมีทัศนคติแบบเก่าอยู่ จึงไม่แปลกใจที่ยังไม่ได้เห็นวิธีการในการฟอร์มคณะรัฐมนตรี (ครม.) แบบใหม่ อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้เห็นความแตกต่างทางความคิดของคนสองรุ่นอย่างชัดเจนมาก ซึ่งความแตกต่างทางความคิดในสังคมไทยมีมานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่น่าเป็นห่วงที่เราจะมีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย

Advertisement

“ในพรรคเดียวกัน เราต้องยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างได้ พรรคภูมิใจไทยมีคนเดียว คือ ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติของพรรคในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก สิ่งที่ผมคาดหวังอยากจะเห็นในพรรค คือการพูดคุยรับฟังเหตุผลกัน ไม่ใช่ตั้งกรรมการเพื่อไปสอบสวนเขา นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็นในการเปลี่ยนแปลง ไม่เฉพาะในภาพใหญ่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานทางการเมืองภายในพรรคภูมิใจไทยด้วย” นายกรวีร์กล่าว

นายกรวีร์กล่าวอีกว่า​ เรื่องที่น่ายินดี คือการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยมีจำนวน ส.ส.มากขึ้น เรามี ส.ส.อยู่ในภูมิภาคต่างๆ ไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะของคนอีสานอีกแล้ว แต่เรื่องที่ต้องปรับปรุงคือจุดยืน หลายคนจดจำพรรคภูมิใจไทยจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ว่าเป็นพรรคกัญชา ตนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถือเป็นต้นทุนที่สูงมากของคนในพรรคที่โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะทำอย่างไรที่ประชาชนจะได้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยทำนโยบายที่หาเสียงไว้ได้จริง ถ้าเราทำไม่ได้ คงต้องรับชะตากรรมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น สิ่งสำคัญคือพรรคต้องสร้างความจดจำให้ได้มากยิ่งขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image