‘พปชร.-อนค.’ เมืองกว๊าน จับมือเดินหน้า ‘พะเยายกกำลังสอง’ เปิดมิติใหม่การเมืองมีส่วนร่วม ‘ภาคประชาสังคม-การเมือง’ เตรียมวางยุทธศาสตร์พัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
วันที่ 21 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน ทางสถาบันส่งเสริมประชาธิปไตย(NDI) และ สถาบันปวงผญาพยาว ได้จัดเวทีเสวนา บทบาทพลเมืองหลังการเลือกตั้ง ขึ้น ระหว่างวันที่ 20-21 มิถุนายน 2562 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเครือข่ายภาคประชาชน เช่น เครือข่ายแม่ญิงพะเยา กลุ่มน้ำกว๊านสีรุ้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เครือข่ายคนพิการ ผู้สูงอายุ ฯลฯ ประมาณ 60 คน และมีการจัดตั้งคณะทำงานพะเยายกกำลังสองร่วมเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดพะเยา ระหว่างภาคการเมืองและภาคประชาสังคม ซึ่งมีนายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.เขต 3 พะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) และนายวิสา บุญนัดดา อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 พะเยา พรรคอนาคตใหม่(อนค.) เข้าร่วมเป็นคณะทำงานด้วย
นายจีรเดช ศรีวิราช กล่าวว่า สำหรับตนมองว่าการมีส่วนร่วมคือหัวใจที่แท้จริงของการเมืองเพื่อพัฒนา ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติ โครงการใด ๆ จะต้องผ่านการประชาคมและมาจากความต้องการของประชาชน ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วม ตั้งแต่ร่วมคิด ทำ รับประโยชน์และติดตามประเมินผล เพราะเป็นรากฐานประชาธิปไตยที่แท้จริง ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ(รธน.)ปี 2560 ได้เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมด้านกฎหมายเพื่อสิทธิ/เสรีภาพ ซึ่งภายใต้การนำของ ร.อ.ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.เขต 1 พะเยา พปชร. หัวหน้าทีม ส.ส.พะเยา ได้ให้แนวทางผ่านตนว่าหลังจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว จะเดินสายลงพื้นที่พบประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ทุกเดือน เพื่อให้เกิดการเชื่อมประสานกันกับการเมืองระดับชาติมาระดมสมองเพื่อนำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาให้เป็นเชิงประจักษ์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
“โดยนำข้อคิดเห็นที่เป็นข้อสรุป/ข้อยุติและนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง โดยบทบาทตัวแทนก็จะสามารถนำเสนอเป็นญัตติสู่สภาเพื่อถกหรือหารือให้มีทางออกต่อไป ขอเพียงภาคประชาชน/ภาคประชาสังคมเข้มแข็งคือหัวใจสำคัญของการเดินหน้าพัฒนาจังหวัดพะเยา” ส.ส.เขต 3 พะเยา กล่าว
ด้านนายวิสา บุญนัดดา อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 พะเยา อนค. กล่าวว่า การเริ่มต้นครั้งนี้เป็นเรื่องที่ภาคประชาชนได้รวมความคิดและนำเสนอต่อภาคการเมือง เพราะเป็นช่องทางที่ดีเพื่อรุกไปยังภาคการเมือง ยิ่งทำให้กระบวนการที่เป็นไปได้มากขึ้น และพรรคการเมืองจะปรับกลยุทธ์การทำงานการเมืองกับภาคประชาชน/ภาคประชาสังคมได้มากขึ้น นักการเมืองทุกพรรคควรเข้ามาร่วมกันให้มากและหลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับคนพะเยาเป็นพลเมืองโดยสร้างคนพะเยาให้เป็นพลเมืองโดยการสื่อสาร จะนำไปสู่การเมืองพัฒนาเมืองพะเยา พัฒนารูปแบบการทำงาน โดยนำงานวิจัย/แผนมาอัพเดทและรวมเป็นแผนที่จะทำกันต่อไปโดยมีข้อมูลด้านหนึ่งจากวิชาการช่วยสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
