“คารม”กังขา​ ส.ว.แต่งตั้งนั่งประธานกมธ.​ร่างข้อบังคับ ล็อกตัวมาก่อนหรือไม่

“คารม” กังขา​ ส.ว.แต่งตั้งนั่งประธานกมธ.​ร่างข้อบังคับ​ ​มีการล็อกตัวมาก่อนหรือไม่​ ชี้ ไม่สอดคล้องปชต.​-หวั่นกำหนดทิศทางสภามากเกินไป​ ลั่น​ หากรุกคืบยิ่งกว่านี้​ ยอมไม่ได้​

เมื่อวันที่​ 26​ มิถุนายน​ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ​ พรรคอนาคตใหม่(อนค.)​ ในฐานะสมาชิกคณะกรรมาธิการร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา​ กล่าวถึงข้อกังวลจากการประชุมนัดแรกเมื่อวันที่​ 25​ มิถุนายน​ที่ผ่านมา​ ซึ่งได้ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)​เป็นประธาน​ ว่า​ จากการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมาธิการ ได้ตั้งข้อสังเกตเมื่อมาไล่ดูแล้ว ในแง่ของพรรคการเมือง ส.ส.มีจำนวนเยอะกว่า ส.ว.ก็จริง แต่เมื่อรวม ส.ว.เข้ากับพรรคที่เป็นฝ่ายรัฐบาลแล้ว กลายเป็นว่ามีฝั่งเดียวกันกับ ส.ว.รวมแล้วเยอะกว่าที่เป็นพรรคการเมือง​ จึงเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกับการคุยกันไว้ล่วงหน้ามาก่อน​ ทำให้ได้ประธานคณะกรรมาธิการคือ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เท่ากับเราได้ประธานกรรมาธิการมาจากคนที่เป็นส.ว.

นายคารมกล่าวว่่า​ ในการนี้ ตนต้องเน้นย้ำว่าไม่มีอะไรติดใจในแง่ส่วนตัว แต่โดยหลักการ​ ไม่ควรให้ประธานคณะกรรมาธิการมาจากส.ว. เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า​ส.ว.มาจากการเลือกของคณะรักษา​ความสงบ​แห่งชาติ​(คสช.)​ จึงเหมือนกับว่าประธานกรรมาธิการก็คือคนที่ คสช.เลือกมา ซึ่งไม่ถูกต้องสอดคล้องกับหลักการ​ประชาธิปไตย​ สุดท้ายแล้ว​ ส.ส.จาก ​พรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งไปยอมให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช.​ รุกคืบเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับที่จะต้องใช้ร่วมกันของทั้งสองสภา อย่างไรก็ตาม​ ในฐานะที่เป็นกรรมาธิการร่วมยกร่างคนหนึ่ง แม้ไม่เห็นด้วย แต่ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ ให้เกียรติกันได้ และในการประชุมวานนี้​ ตนก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกไป เพราะไม่อยากให้เกิดบรรยากาศที่ไม่สบายใจในการทำงานร่วมกัน​ แต่สิ่งที่ตนพูดวันนี้ เพียงต้องการสะท้อนให้เห็นว่ามีคำถามเกิดขึ้น

“วันนี้ในฐานะ ส.ส.​ ต้องแสดงจุดยืน หากการรุกคืบเข้ามามีบทบาทมากกว่านี้​ เรายอมไม่ได้เหมือนกัน เราต้องพูดโน้มน้าวไปถึง ส.ส.ทุกคน แม้กระทั่ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ชี้ให้เห็นว่ามันไม่เหมาะสม ฝ่ายที่เป็นวุฒิสภาก็ต้องตระหนักว่าสิ่งใดที่ทำได้หรือทำไม่ได้ สิ่งเดียวที่ต้องคิดคือการมองไปข้างหน้า และให้สะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น​ ทั้งนี้​ สิ่งที่อยากฝากถึงท่านประธาน คืออยากให้ท่านเปิดกว้าง อยากให้ในใจของท่าน 50% ต้องเทให้ฝั่ง ส.ส.ที่เป็นฝ่ายค้าน​ มากกว่าฝั่งสมาชิกวุฒิสภา ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน อยากให้ท่านตรึกตรองทุกเรื่องให้การทำงานของสภาภายในข้อบังคับ ต้องมองเห็นในส่วนของ ส.ส.ด้วย” นายคารมกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image