‘วิษณุ’ ระบุยึดคำพิพากษาศาลกรณี ‘นาที’ ชี้ตัดสิทธิการเมือง 5 ปี กระทบคุณสมบัติ ส.ส. ยกมาตรา 98 ส่อปิดเทอมยาวตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาสั่งจำคุกนางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นเวลา 1 เดือน รอลงอาญา 1 ปี จากกรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งผลให้ถูกห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นเวลา 5 ปี ว่าตนเห็นจากข่าว และหากตีความตามนั้น เมื่อศาลฎีกาพิพากษาออกมาเช่นนั้นก็ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. และตนได้ยินว่าทางพรรค ภท.ได้เตรียมเลื่อน ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปขึ้นมาแทนอยู่แล้ว ส่วนคำพิพากษาที่ให้ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556 และสิ้นสุดแล้วในปี 2561 จะกระทบต่อการดำรงตำแหน่งในปัจจุบันหรือไม่นั้น เรื่องการตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การได้ชื่อว่าต้องคำพิพากษาก็จะไปกระทบกับคุณสมบัติ เช่น แม้จะเคยถูกจำคุกเมื่อ 10 ปีที่แล้วในคดีอื่นที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 98 ก็ไม่ได้ และต่อให้พ้นจากช่วงเวลา 5 ปีไปก็กระทบกับเรื่องคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไม่กระทบกับสามีและบุตร แม้จะเป็นของทรัพย์สินของสามี แต่สามีไม่ได้เซ็นอะไรเลยในแบบฟอร์มที่นางนาทีได้ยื่นทรัพย์สินไว้ อีกทั้งไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อถามว่า ในมาตรา 98 ไม่ได้ระบุว่าห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลากี่ปี หมายความว่าห้ามตลอดชีวิตใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เคยมีการพูดกันว่าน่าจะตลอดชีวิต เพราะตราบใดที่มาตรานี้ยังอยู่ มันจะถือว่าเคยต้องคำพิพากษาอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม เราได้พบว่ามีกรณีหนึ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งหากดูในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่มีตรงไหนที่จะบอกไว้ว่า 10 ปี จึงเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะกำหนดระยะเวลา ดังนั้น ถ้าคำพิพากษาศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาก็แปลว่าไม่กำหนดว่าต้องกี่ปี แต่ไม่ต้องไปยื่นให้ตีความใดๆ ต่อ หากศาลจะเอาอย่างไรก็จะว่ามาในคำพิพากษาฉบับเต็ม
