‘บิ๊กป้อม’ เป็นประธานเวที รมว.กลาโหมอาเซียน รับรองเอกสาร 6 ฉบับ ผนึกความมั่นคง ยันฝึกร่วมสหรัฐไม่กระทบสัมพันธ์จีน

เวทีรมว.กลาโหมอาเซียน ผนึกกำลังความมั่นคงยั่งยืน ย้ำสร้างทะเลจีนใต้เป็นทะเลสันติภาพ ยันการฝึกผสมทางทะเลอาเซียน-สหรัฐ ไม่กระทบความสัมพันธ์จีน

เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคมนี้ ที่ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี-ล่า กรุงเทพฯ กระทรวงกลาโหม ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Defence Ministers’ Meeting) หรือ ADMM ครั้งที่ 13 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN Defence Ministers’ Meeting – Plus) หรือ ADMM – Plus ครั้งที่ 6 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-12 กรกฎาคม 2562 การประชุมครั้งนี้ได้ชูแนวความคิด “ความมั่นคงที่ยั่งยืน” และประเด็นความมั่นคงแบบ 3S เข้าสู่เวทีเจรจา เน้นความร่วมมือที่ยั่งยืน บูรณาการขับเคลื่อน และสนับสนุน กิจกรรมคาบเกี่ยว 3 เสาหลักเชื่อมโยงภูมิภาค

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่ากระทรวงกลาโหมและประเทศไทย ขอขอบคุณเพื่อนรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ทุกท่านและเลขาธิการอาเซียนรวมทั้งเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้กล่าวไปแล้ว ที่มีส่วนทำให้การประชุม ADMM-ครั้งที่ 13 ประสบความสำเร็จไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีผลลัพธ์สำคัญคือพวกเราได้ร่วมลงนามในปฏิญญาร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือ ด้านความมั่นคงของอาเซียน ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการเป็นประชาคมที่มีสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค รวมทั้งมีขีดความสามารถตอบสนองต่อความท้าทายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียนไว้

“ขอชื่นชมความคืบหน้าของความร่วมมือของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน กับรัฐมนตรีกลาโหม ประเทศคู่เจรจาเเละความสำเร็จของการฝึกผสมทางทะเลระหว่างอาเซียนกับจีนเมื่อปีที่แล้ว และยินดีต่อการฝึกผสมทางทะเลระหว่างอาเซียนกับสหรัฐอเมริกาในปีนี้ เพื่อเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเชื่อมั่นร่วมกันระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา” พล.อ.ประวิตร กล่าว

Advertisement

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังได้ให้การรับรองเอกสารแนวความคิด ความร่วมมือในกรอบ ADMM จำนวน 6 ฉบับ ได้แก่

1.)การประเมินผลการปฏิบัติของความคิดริเริ่มในกรอบ ADMM

2)บทบาทของฝ่ายทหาร อาเซียน ในการสนับสนุนการบริหารจัดการชายแดน ความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามข้ามแดน

Advertisement

3) การขยายโครงสร้างการสื่อสารโดยตรงของประเทศสมาชิกอาเซียนไปยังประเทศคู่เจรจา โดยจะเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารเพื่อลดหรือแก้ไขปัญหาในยามวิกฤต

4) การแลกเปลี่ยนข่าวสารทางยุทธศาสตร์
ด้านการก่อการร้ายด้วยขอบเขตการปฏิบัติงานโครงการ ASEAN Our Eyes

5) การจัดตั้งกลไกการประชุมแพทย์ทหาร อาเซียน เเละ

6) แนวทางปฏิบัติในการปฏิสัมพันธ์ทางทะเล เพื่อเสริมสร้างระเบียบการบริหารจัดการ ความขัดแย้งทางทะเล โดยเห็นความสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบด้านความมั่นคงจากปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจบการแถลงของพล.อ.ประวิตร เป็นการตอบคำถามจากสื่อมวลชน โดยมีคำถามเกี่ยวกับการประชุม ADMM ว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไร อย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรตอบว่า มีความร่วมมือที่เป็นรูปธรรรมนั้น เกี่ยวกับภัยพิบัติช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการจัดตั้งศูนย์การแพทย์อาเซียน รวมถึงการแลกเปลี่ยนข่าวสารเกี่ยวกับภัยก่อการร้าย ซึ่งเกี่ยวโยงกับชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสิ้น เมื่อถามถึงความร่วมมือในการประชุม ADMM และความสัมพันธ์ของชาติมหาอำนาจ
โดยเฉพาะการร่วมฝึกผสมทางทะเลระหว่างอาเซียนกับสหรัฐอเมริกาในปีนี้ จะมีผลอย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการฝึกร่วมกับเจรจา ในปีที่ผ่านมาอาเซียนก็ฝึกกับจีน เป็นการเสริมสร้างทางการทหารและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน จึงไม่กระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศใดๆ สำหรับประเด็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้นั้น ที่ประชุมฯ ให้ความสำคัญกับการปฎิบัติตามปฎิญญาว่าด้วยเเนวปฏิบัติของภาคีต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ หรือ DOC เเละพร้อมจัดทำประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ หรือ COC ให้เเล้วเสร็จ

“โดยเฉพาะการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความปลอดภัยเเละเสรีภาพในการเดินเรือเเละบินผ่านทะเลจีนใต้พร้อมส่งเสริมการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเเละยับยั้งชั่งใจ
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งระงับข้อพิพาทด้วยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างสันติ” พล.อ.ประวิตรกล่าว

************************************************

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image