เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายวิเชียร พวงลำเจียก อดีตนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า จากมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของรัฐบาลที่ผ่านมา ถือว่าค่อนข้างมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน แต่เกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา ถือว่าไม่ได้ประโยชน์จากโครงการต่างๆเลย เนื่องจากไม่มีน้ำจะทำการเพาะปลูกเป็นเวลาร่วมกว่า 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2557- 2559 ทำให้เกษตรกรขาดรายได้เป็นจำนวนมาก ผลผลิตก็เสียหาย ราคาก็ตกต่ำเป็นช่วงๆ รายได้จึงไม่พอกับค่าใช้จ่ายที่มีมาตลอด ทั้งค่าน้ำประปา ค่าไฟ ค่าเทอมบุตร ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และค่าครองชีพก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกษตรกรต้องไปกู้หนี้ทั้งของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหนี้นอกระบบ จึงอยากวอนขอให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาจริงๆ สักที เพราะในช่วงที่ผ่านมาชาวนาลำบากมาก ครั้งหนึ่งเคยไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้รับการตอบรับ
“จากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น ส่งผลเสียหายอย่างหนักต่อนาข้าว ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ สวนทางกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกษตรกรต้องเป็นหนี้จำนวนมาก จึงอยากวอนขอให้รัฐบาลพักชำระหนี้สัก 5 ปี เพื่อบรรเทาภาระให้เกษตรกรสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งที่ผ่านมาชาวนารู้สึกน้อยใจมากที่รัฐบาลไม่เคยมาเหลียวแลความทุกข์ของชาวนาเลย ต่างจากพืชอื่นๆ ที่รัฐบาลยังให้การสนับสนุนอยู่ โดยจะเห็นได้จากเร็วๆ นี้ ภาครัฐได้มีการออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ที่ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งในหลายจังหวัด แถมภาครัฐยังจ่ายชดเชยสูงถึงไร่ละ 1,300 บาท ชาวนาจึงอยากขอความเห็นใจจากรัฐบาลบ้าง” นายวิเชียร กล่าว
