เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่กระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้ากระทรวงเป็นวันแรกก่อนเข้าปฏิงาน โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ประกอบด้วย ศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี พระอนุสาวรีย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ
ขณะที่เวลา 09.00 น.นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางเข้ากระทรวงเป็นวันแรกก่อนเข้าปฏิงาน โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ประกอบด้วย ศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี พระอนุสาวรีย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ
นายนิพนธ์กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า คงต้องรอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายงานก่อน ว่าจะได้รับผิดชอบหน่วยงานใด ส่วนจะขอรับผิดชอบกรมปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถ้าท่านมอบหมายให้ทำหน้าที่อะไร ตนก็ทำได้ทั้งนั้น เพราะตลอดระยะเวลาที่เป็น ส.ส.มากว่า 22 ปี ไปทำงานท้องถิ่น 6 ปีนั้น ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ เพราะเคยมีส่วนเป็นฝ่ายอำนวยการของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถึง 2 คน คือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ กับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และยังเคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยมา ดังนั้น จึงไม่ใช่คนใหม่ของกระทรวงมหาดไทย
นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ในฐานะที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาก่อน คิดว่าวันนี้ถ้าเราทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ทำท้องถิ่นให้เป็นกลไกในการบริการสาธารณะให้กับประชาชน ควบคู่กับการทำท้องถิ่นให้มีธรรมาภิบาลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดประเทศก็จะเข้มแข็ง ส่วนจะมีการพูดคุยเสนอแนะเกี่ยวการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่นั้น คิดว่าต้องหารือกันทุกฝ่าย เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นมีหลายฝ่ายมาเกี่ยวข้องทั้งความพร้อมของทางจังหวัด ความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนค้างอยู่ในคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิพนธ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในท้องถิ่น ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทุจริตเลย แต่เป็นกรณีการจัดซื้อรถในสมัยก่อนที่ตนจะไปรับ และมีการร้องเรียนว่า ไม่ใช้จ่ายเงิน แต่เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้กังวลกับกรณีดังกล่าวว่าจะเป็นจุดที่ทำให้ฝ่ายค้านนำมาโจมตี เพราะเรื่องนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะชี้แจงให้ฝ่ายค้านให้เข้าใจ ว่าที่ไปที่มาเป็นอย่างไร เพราะมีเอกสารราชการยืนยันทุกอย่าง
