เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะทำงาน และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านยาเสพติด โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ปปส.ให้ข้อมูล โดยการเดินทางในครั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้รับฟังแนวทางการดำเนินงานของ ปปส. ในเรื่องของชนิดยาเสพติดต่างๆ รวมถึงแหล่งผลิต ช่องทางการขนเพื่อนำมาขายในประเทศ รวมถึงโครงการต่างในการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพ นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้ติดตามภารกิจการการจับยาเสพติด ผ่านวีดีโอแบบถ่ายทอดสดการจับกุมเครือข่ายส่งยาเสพติดด้วยบริษัทขนส่งเอกชน ได้ส่งต่อไปยังอีก 7 จังหวัด ซึ่งตำรวจกับเจ้าหน้าที่ ปปส.รอจับกุมทันทีเมื่อรับพัสดุ
นายสมศักดิ์ ยังได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร ปปส. พร้อมระบุ ว่า เราต้องศึกษาจากนานาประเทศว่าทำไมประชาชนเขาถึงไม่ติดยาเสพติด หรือเขามีบทลงโทษอย่างไร แม้เราอาจทำไม่ได้เช่นเขาแต่เราก็ควรจะศึกษาแล้วนำมาปรับใช้ ต้องยอมรับว่าประทศเรามีทั้งผู้เสพ และ ผู้ค้าเพิ่มมากขึ้น เราก็ต้องไขปัญหาเหล่าให้ดีขึ้นทำสังคมให้น่าอยู่ เยาวชน รุ่นใหม่ต้องห่างยาเสพติด
นายสมศักดิ์ ยังระบุอีกว่า วันนี้คงยังไม่ได้ให้นโยบายอะไร เพราะขณะนี้ยังไม่ได้แถลงนโยบายกับรัฐสภาเพียงแต่มารับฟังข้อมูลความคิดเห็น และแลกเปลี่ยน แต่สิ่งที่ได้เห็น ทรัพยากรของปปส.ทุกคนนั้นทำงานหนัก แม้มีข้าราชการเพียงพันกว่าคนแต่ต้องดูแลพื้นที่ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยในเรื่องยาเสพติด แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่านักโทษที่อยู่ในกรมราชทัณฑ์ ส่วนมากมาจากเรื่องยาเสพติด ตรงนี้ก็คิดว่าเราต้องบูรณาการร่วมกันกับหลายๆหน่วยงานในกระทรวงรวมทั้งหน่วยกระทรวง และหน่วยงานต่างๆด้วย เวลานี้เราก็ยังเห็นจุดเด่น ประเทศไทยมี 8 หมื่นกว่าหมู่บ้าน และปลอดยาเสพติดถึง 50,000 หมู่บ้านแต่จุดที่สุ่มเสี่ยงและต้องพึงระวังมีอยู่ 24,000 หมู่บ้าน แต่มีอยู่เสี่ยงเพียงกว่า 2000 หมู่บ้านที่มีความเสี่ยง จากนี้เราคงต้องเคลียร์ไปทีละพื้นที่และเชื่อว่าในวันข้างหน้าจะสามารถทำได้ เวลานี้ปปส.นั้นก็ยังให้ความสนใจและทำได้ดี ในเรื่องของการจับยาเสพติดจากการส่งผ่านไปรษณีย์ต่างๆ ซึ่งถ้าหากเราร่วมมือร่วมใจจากนี้ตนเชื่อว่าเราจะสามารถปราบปรามยาเสพติดได้ดีขึ้น
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีการปลูก กัญชา ว่าเวลานี้การขออนุญาตปลูกอย่างถูกต้องมีเพียงแค่ 4 แห่งเท่านั้นซึ่งเป็นสถานศึกษาและหน่วยงานของราชการ เวลานี้ยังไม่สามารถปลูกได้อย่างเสรี อยากฝากเตือนประชาชน ตนกังวลว่าจะเกิดความเข้าใจผิดและถูกจับกุม เราต้องระมัดระวัง เวลานี้กัญชาเป็น นโยบายของรัฐบาลจริง แต่เวลานี้กัญชาใช้ได้เพียงการรักษาผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนไว้ และจากนี้ต้องติดตามการขับเคลื่อนจากกระทรวงสาธารณสุข