เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ณัฎฐธิดา หรือแหวน มีวังปลา พยานปากสำคัญในคดีสังหารหมู่ 6 ศพวัดปทุมวนาราม เมื่อปี 2553 เนื่องจากขณะนั้นเป็นพยาบาลอาสาของโรงพยาบาลวชิระ อยู่ในเต็นท์เดียวกับผู้เสียชีวิต ต่อมาถูกถูกเครือข่ายเสื้อแดงที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานผู้ก่อเหตุให้ไปปาระเบิดลานจอดรถศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อค่ำวันที่ 7 มีนาคม 2558 ก่อนศาลทหารจะให้ประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 แต่ในวันเดียวกับที่ศาลทหารให้ประกันตัว ตำรวจกองปราบปรามได้รอจับกุมอยู่ด้านหน้าเรือนจำ ก่อนแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 แล้วอายัดตัวคุมขังต่อทันทีก่อนจะได้ประกันตัวอีกครั้งในวันที่ 4 กรกฎาคม 2561
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การต่อสู้คดีของ น.ส.ณัฎฐธิดาตอนต้นได้รับความช่วยเหลือทางสำนวนคดีจากกลุ่มทนายเสื้อแดงเป็นอย่างดี แต่ในการขอประกันตัวต่อศาลเพื่อออกมาสู้คดีนั้น ศาลตั้งเงินประกันทั้งสองคดีเป็นเงิน 9 แสนบาท แต่ น.ส.ณัฎฐธิดาไม่มีหลักทรัพย์ หรือเงินประกันตัว จึงได้ขอระดมทุนจากประชาชนทั่วประเทศ โดยให้โอนเข้าบัญชีของกลุ่มทนายความเสื้อแดง ขณะที่ยังอยู่ในเรือนจำได้เงินบริจาคกว่า 9 แสนบาท และการไปศาลเพื่อต่อสู้คดีแต่ละครั้ง น.ส.ณัฎฐธิดาต้องถูกผู้พิพากษาศาลทหารเรียกไปตำหนิหน้าบัลลังก์บ่อยครั้ง เนื่องจากทนายและหรือนายประกันไม่ยอมมาศาลเพื่อลงนามเอกสารสำคัญ ซึ่งหากทนายหรือนายประกันทำแบบนี้ ศาลแจ้งว่าอาจสั่งให้ถอนการประกันตัว
“ด้วยเหตุดังกล่าว น.ส.ณัฎฐธิดาจึงตัดสินใจไปหากู้ยืมเงินมาประกันใหม่ 1 ล้านบาท พร้อมถอนทีมทนายเสื้อแดงออกทั้งหมด เนื่องจากความเห็นไม่ตรงกันในการสู้คดี และเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการต่อสู้คดีในอนาคต เพราะเห็นแล้วว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกเพิกเฉยจากทีมทนายกลุ่มเสื้อแดง” นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า หลังจากนั้น น.ส.ณัฎฐธิดาได้พยายามทวงถามเอกสารทางคดีและเอกสารที่เคยฝากไว้กับทนายหลักคืนเมื่อครั้งถูกคุมขังเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน 18 วัน และทวงคืนเงินระดมทุนประกันตัวจำนวน 9 แสนบาทที่ประชาชนทั่วประเทศได้โอนมาเข้าบัญชีทีมทนายเพื่อมาช่วยเหลือ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเพิกเฉยมาโดยตลอด และถูกนายประกันท้าให้ไปแจ้งความหากต้องการเงินคืน น.ส.ณัฎฐธิดาจึงไปแจ้งความต่อ สน.ดอนเมือง และไปร้องเป็นคดีมารยาทต่อสภาทนายความไว้ แต่การดำเนินการของสภาทนายความยังไม่มีความคืบหน้า จึงร้องขอความช่วยเหลือจากสมาคมฯเพื่อให้เรียกร้องความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งการไปยังกระทรวงยุติธรรมและสภาทนายความ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล
