กรณีเกิดการเหตุการณ์ป่วนเมือง 14 จุด โดยเกิดเหตุระเบิด 5 ครั้ง ใน 9 พื้นที่ และไฟไหม้ 5 จุด โดยฝ่ายทหารระบุว่า เป็นเรื่องการเมืองฝีมือคนกลุ่มเดิม ส่วนตำรวจชี้ว่าเป็นกลุ่มจากภาคใต้ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร และคิดว่าเจ้าหน้าที่ควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนระบุว่าเป็นฝีมือใครหรือไม่
1. ควรตรวจสอบก่อน
2. ระบุได้เลยก็ดี
รายละเอียด : เกิดการเหตุการณ์ป่วนเมือง 14 จุด โดยเกิดเหตุระเบิด 5 ครั้ง ใน 9 พื้นที่ และไฟไหม้ 5 จุด
สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในวันที่ 2 ส.ค. ประกอบด้วย 5 พื้นที่ 9 จุด รอบกรุงเทพฯ ประกอบด้วย ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หน้าสวนหย่อมอาคารบี และหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย รวม 4 ลูก, หน้าอาคารมหานคร บีทีเอสช่องนนทรี 2 ลูก, ซอยพระรามเก้า 57/1 จำนวน 1 ลูก และที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมาอีก 2 ลูก ส่วนที่หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ.ศรีสมาน เป็นเหตุสปอตไลท์ระเบิด
ส่วนเพลิงไหม้ เกิดขึ้นพร้อมกัน 3 จุดในพื้นที่สถานีดับเพลิงพญาไท(ประตูน้ำ) และอีก 2 จุด คือ ไฟไหม้ตึกไบหยก ไฟไหม้ตลาดเฉลิมลาภ
โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล เหตุการณ์ลักษณะนี้เกือบไม่มีเลย ทำไมจึงมาเกิดในช่วง ซึ่งกำลังมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนซึ่งถือเป็นวาระสำคัญในการพูดคุยกับประเทศคู่เจรจา และเคยมีตัวอย่างแบบนี้เกิดขึ้นหรือเปล่า
ต้องไปทบทวนว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้างในอดีตที่ผ่านมา ทราบว่าหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเก่าๆ
ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ระบุว่า สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น มีความเชื่อมโยงกัน 2-3 จุด โดยเป็นระเบิดชนิดเดียวกัน ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมคล้ายกับกลุ่มที่เคยลอบวางระเบิดใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันฑ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ปี 2558 แต่เป็นกลุ่มคนหน้าใหม่จึงไม่มีข้อมูลในสารระบบ
สามารถโหวตได้ที่มติชนออนไลน์
สามารถโหวตได้ที่ทวิตเตอร์มติชน
กรณีเกิดการเหตุการณ์ป่วนเมือง 14 จุด โดยเกิดเหตุระเบิด 5 ครั้ง ใน 9 พื้นที่ และไฟไหม้ 5 จุด
โดยฝ่ายทหารระบุว่า เป็นเรื่องการเมืองฝีมือคนกลุ่มเดิม
ส่วนตำรวจชี้ว่าเป็นกลุ่มจากภาคใต้ ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร และคิดว่าเจ้าหน้าที่ควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนระบุว่าเป็นฝีมือใครหรือไม่
— Matichon Online (@MatichonOnline) August 3, 2019