ศรชล.แจงช่วยเหลือลูกเรือประมงไทย 17 ชีวิตกลับบ้าน คาดถึงไทยสัปดาห์นี้ ชี้สถานการณ์ไม่เลวร้าย
เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) พล.ร.ท.รณภพ กาญจนพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์ยุทธการ ศรชล. แถลงถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือลูกเรือไทยหลังถูกนายจ้างไทยทอดทิ้งกลางทะเลโซมาเลียว่า เรือที่อยู่ในข่าวชื่อ WADANI 1 ซึ่งกรมเจ้าท่าตรวจสอบแล้วว่า เจ้าของเรือได้ขายเรือดังกล่าวให้กับเจ้าของเรือชาวอิหร่าน ตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 และกรมเจ้าท่าได้เพิกถอนทะเบียนเรือไทยเรียบร้อยแล้ว และกรมประมงได้ตรวจสอบฐานข้อมูลเรือประมงแล้วไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อเรือประมงนอกน่านน้าไทย ดังนั้นโดยสถานะทางกฎหมายเรือดังกล่าวไม่ใช่เรือไทย ขณะนี้จอดเทียบท่าอยู่ที่เมืองโบซาโซ อย่างไรก็ตามเรือลำดังกล่าว อยู่ในกิจการทำประมงในน่านน้ำโซมาเลีย และส่งสินค้ากลับมายังประเทศไทย ซึ่งการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำดังกล่าว กรมประมงมีอำนาจและกลไกการตรวจสอบไม่ให้เป็นสินค้าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมงผิดกฎหมาย แม้โดยสถานะทางกฎหมายเรือลำดังกล่าวไม่ใช่เรือไทย แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย เนื่องจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนไทยที่ทำงานบนเรือขณะอยู่ในทะเล เมื่อทราบเหตุศรชล.ได้แจ้งศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ซึ่งได้มอบหมายให้นายทหารประสานงานของกองทัพเรือประจำกองเรือเฉพาะกิจผสม CTF151 มีที่ตั้งอยู่ ณ ราชอาณาจักรบาห์เรนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ทราบว่า CTF151 มีเครื่องบินตรวจการณ์ แบบ JN41 ของกองทัพเรือญี่ปุ่น ขึ้นทำการบินลาดตระเวนโดยมีเส้นทางบินห่างประมาณ 30 – 40 ไมล์จากเมืองโบซาโซ และนายทหารประสานงานร้องขอกองกำลังทางเรือสหภาพยุโรปใช้เครื่องมือดักรับสัญญาณช่วยเหลือทางทะเล หรือสัญญาณวิทยุขอความช่วยเหลือ ซึ่งอาจเข้าไปทำการช่วยเหลือโดยทันที แต่จากการตรวจสอบทราบว่าเรือประมง WADANI 1 จอดเทียบท่าเรือของโซมาเลีย ในเบื้องต้นจึงคาดว่ายังไม่มีสถานการณ์ที่เป็นอันตรายร้ายแรง
พล.ร.ท.รณภพ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของศรชล. ได้สนทนากับลูกเรือ WADANI 1 กลุ่มที่ขอกลับบ้าน 17 คนในการให้ความช่วยเหลือ และประเมินว่าขณะนี้ยังไม่มีอันตรายร้ายแรงที่จำเป็นต้องแทรกแซงโดยทันที การปฏิบัติโดยทั่วไปจึงยังต้องดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์ทราบว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนย่า โดยนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตได้ประสานงานเพื่อให้การช่วยเหลือลูกเรือประมงดังกล่าวและได้รับการตอบรับจากบุคคลระดับผู้นำของรัฐในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และจากการเฝ้าฟังอย่างใกล้ชิดทราบว่า ลูกเรือได้รับเสบียงและน้ำเพิ่มเติมแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่กระทรวงการต่างประเทศกำลังเตรียมการเพื่อดูแลการเดินทางกลับของลูกเรือ โดยประสานงานกับองค์การเพื่อการย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ ทั้งนี้คาดว่าลูกเรือดังกล่าวจะสามารถเดินทางกลับได้ภายในปลายสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามศรชล.จะร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้ายจะได้แจ้งให้นายทหารประสานงานติดตามความเคลื่อนไหวของเรือต่อไป
เมื่อถามว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางไปของลูกเรือว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร พล.ร.ท.รณภพ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวเมื่อลูกเรือเดินทางกลับมาแล้วทางกระทรวงแรงงานจะตรวจสอบข้อมูลต่อไปว่าการทำสัญญาจ้างแรงงานเดินทางไปทำงานนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
