“ช่อ” ชี้ นายกฯไม่สามารถจบเรื่องถวายสัตย์ ได้ด้วยการนิ่งเฉย เพราะคำถามที่มีต่อเรื่องนี้จะยังคงอยู่เสมอ ชี้ “อนาคตใหม่” จะใช้ช่องทางสภา ในการทวงถามไม่ให้เรื่องนี่หายไป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) น.ส.พรรณิการ์ วานิชย์ โฆษกพรรคอนค. แถลงถึงการทำงานในสภาของพรรคอนค. ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนค. จะตั้งกระทู้สดเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกฯอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนายกฯบอกเองว่าครั้งที่แล้วติดภารกิจ ครั้งนี้จะมาตอบ ก็ขอให้ช่วยกันจับตาดูว่านายกฯจะมาตอบหรือไม่ และตอบอย่างไร ทั้งนี้ นายกฯ บอกอยากให้จบเรื่องนี้ ตนก็อยากให้จบเรื่องนี้เช่นเดียว แต่จะจบได้ไม่ใช่ห้ามให้ทุกคนพูดแล้วให้เรื่องนี้เงียบไป แบบนี้จบไม่ได้ แบบนี้เรียกปิดปาก แล้วซุกขยะใต้พรหม จะจบเรื่องนี้นายกฯต้องเข้ามาตอบคำถามในสภาให้ชัดเจนว่าจะจัดการปัญหาถวายสัตย์ฯไม่ครบอย่างไร เรื่องนี้จึงจะจบได้ และจบอย่างสง่างาม รัฐบาลจะได้ไม่ต้องมีแผลเรื่องนี้เป็นชนักปักหลังไปตลอดสมัยที่บริหารประเทศ และหากพรุ่งนี้ (14 สิงหาคม) ท่านไม่มา ขอให้รับทราบโดยทั่วกันว่าท่านจงในหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องนี้ต่อหน้าสภา
น.ส.พรรณนิการ์ กล่าวอีกว่า กระทู้ต่อมาของนายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนค. เรื่องป่าแหว่งที่เงียบหายไป อนค.จะทวงถามอีกครั้งกับรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าจะจัดการกรณีบ้านพักตุลาการบริเวณดอยสุเทพไปถึงไหน และแนวทางเป็นอย่างไร ประชาชนอยากทราบว่าเรื่องนี้จุดจบจะเป็นอย่างไร อีกเรื่องคือ อนค.เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเรื่องความหลากหลายทางเพศซึ่งเราให้ความสำคัญ และเห็นว่าควรมีกรรมาธิการเรื่องนี้แยกออกมาให้ชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เลือกใช้วิธีนิ่งเพื่อให้กระแสเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนเงียบไป น.ส.พรรณิการณ์ กล่าวว่า ในฐานะส.ส. ช่องทางที่เราสามารถทำได้ และจะทำต่อไปจนกว่าจะได้คำตอบคือ ช่องทางสภา ผ่านการตั้งกระทู้สด ส่วนด้านอื่นๆพรรคร่วมฝ่ายค้านมีแนวทางที่จะดำเนินการเช่นเดียวกัน ในส่วน อนค. เรายืนยันว่าวิถีทางที่เราจะทวงถามเรื่องนี้จากนายกฯคือการทวงถามผ่านทางสภา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นตราประทับว่าคุณได้เข้ามาทำงานถูกต้องตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ ถ้าเริ่มต้นทำไม่ถูกต้อง มันไปก้าวต่อๆไปไม่ได้ คำถามจะยังอยู่ตรงนั้นเสมอ ไม่หายไปไหน
เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านโหวตชนะฝ่ายรัฐบาลเป็นคร้ังแรก น.ส.พรรณิการณ์ กล่าวว่า เราพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นโดยกฎหมายพรรคการเมืองที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้เอง ทำให้รัฐบาลที่ต้องทำหน้าที่บริหารประเทศต้องมาพะวงกับการเอาใจพรรคเล็กพรรคน้อยเพื่อคอยควบคุมเสียงของตัวเองตลอดเวลา พลังงาน ความคิดความอ่านต่างๆแทนที่จะเอาไปใช้แก้ปัญหาให้กับประชาชนก็ต้องมาใช้ในความพยายามรักษาเสียงของตนเองไม่ให้แตก แล้วมีชีวิตรอดไปวันๆในสภา
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึงพรรคเล็กที่แถลงข่าวในวันนี้ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีข้อพิสูจน์หลายครั้งแล้วว่าการติดใจของแต่ละพรรค ตัดสินใจบนผลประโยชน์ของตนเอง หรือบนผลประโยชน์ของประชาชน เรื่องในอนาคตเราก็หวังว่าพรรคการเมืองโดนเฉพาะพรรคจิ๋วจะได้บทเรียน ถ้าท่านตระหนักว่าท่านมาจากเสียงของประชาชน ผู้ที่ท่านจะต้องทำงานรับใช้คือประชาชนไม่ใช่นายกฯ หรือรัฐบาล ต้องยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เรายังคงมีความหวังอยู่
