“ธนาธร”ลุย “พัทลุง”ดูที่ทำกิน รับ รู้สึกโกรธ-น้อยเนื้อต่ำใจ ยังช่วยแก้ปัญหาปชช.ไม่ได้

“ธนาธร” ลุย “พัทลุง” ดูปัญหาที่ดินทำกิน ย้ำเป้าหมาย “อนาคตใหม่” ยุติราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้ท้องถิ่น เผย รู้สึกโกรธ-น้อยใจ เป็นฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจแก้ปัญหาปชช.

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ทีมประชาสัมพันธ์พรรคอนาคตใหม่ รายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) เดินทางไปเยือนพื้นที่ ม.8 บ้านท่าข้าม ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง รับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่แนวเทือกเขาบรรทัด ซึ่งมีข้อพิพาทเรื่องที่ดินกับรัฐ ที่ทับซ้อนกับพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตป่าสงวน ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ประชาชนในหมู่ 8 ได้อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มากว่า 300 ปีต่อมาทางการได้ประกาศให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตป่าสงวน จนนำไปสู่ข้อพิพาทกับทางการและการถูกคุกคามเชิงนโยบายตลอดเวลา หลักๆคือเรื่องการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บุกรุกป่า ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามรวมตัวกันหาทางออกพูดคุยกับทางการตลอดเวลาแต่ก็ไม่ค่อยเป็นผล เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้รับผลกระทบจากคำสั่งที่ 64/2557 นโยบายทวงคืนผืนป่า มีการโค่นต้นยางและพืชผลทางการเกษตรอื่นๆของชาวบ้านกว่า 1,300 แปลง จนกระทั่งมีคำสั่ง 66/2557 เพื่อทุเลาปัญหา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติ เพราะเจ้าหน้าที่เลือกที่จะปฏิบัติตามนโยบายทวงคืนผืนป่าอย่างเดียว ชาวบ้านจำนวนมากยังคงถูกปักป้ายยึดที่ดิน จนต้องสูญเสียวิถีชีวิตดั้งเดิมไป

นายธนาธร กล่าวว่า ที่ผ่านมาแกนนำพรรคอนาคตใหม่ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลรวบรวมปัญหาที่ดินของเกษตรกร ซึ่งเราพบว่าปัญหาในลักษณะป่าทับที่ทำกินนี้ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชีวิตประชาชนเป็นอย่างมาก ในความเป็นจริง รัฐมีกลไกมากมายที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างเป็นระบบ เช่นพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม แปรสภาพเป็นเมืองไปหมดแล้ว แต่แผนที่ยังเขียนว่าเป็นป่าอยู่ เราควรยกเลิกพื้นที่ป่า ขีดแผนที่ใหม่เลย พื้นที่ไหนชาวบ้านอยู่พื้นที่ต้นน้ำ เราอาจจะทำข้อตกลงกับชุมชนให้มีที่ทำกินและต้องไม่บุกรุกเพิ่ม หรือมีพื้นที่ใกล้เคียงที่ย้ายให้ไปทำกินบริเวณนั้นได้ วันนี้เรามาเก็บข้อมูลเพื่อรับฟังความความเห็นของชาวบ้านว่าในแนวเทือกเขาบรรทัด ชาวบ้านเห็นว่าควรใช้วิธีการไหนที่จะเหมาะสมที่สุด

จากนั้น นายธนาธร เดินทางต่อไปยังห้องประชุมเทศบาลตำบลควนขนุน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เพื่อเปิดเวทีรับฟังประเด็นปัญหาจากเครือข่ายภาคประชาชนในภาคใต้ เช่น เครือข่ายที่ดินเทือกเขาบรรทัด, เครือข่ายการจัดการน้ำพัทลุง, เครือข่ายเกษตรอินทรีย์วิถีเมืองลุง, เครือข่ายการจัดการป่าร่วมยาง, เครือข่ายพลังงานทางเลือก, เครือข่ายเมล็ดพันธุ์พื้นถิ่น, เครือข่ายชาติพันธุ์มานิ, เครือข่ายเด็กและเยาวชน เป็นต้น ซึ่งต่างได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนพูดคุยสะท้อนปัญหาอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน ทรัพยากรน้ำ สารเคมีทางการเกษตร เมล็ดพันธุ์ ฯลฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่ชาวบ้านมีความขัดแย้งกับรัฐและกลุ่มทุนมาโดยตลอด

Advertisement

นายธนาธร กล่าวสรุปการรับฟังปัญหาว่า อยากพูดให้ทุกคนเข้าใจ ว่าเราไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่มีอำนาจเหนือข้าราชการที่จะไปสั่งใครให้แก้ปัญหาได้ แต่ในฐานะฝ่ายค้าน เรายังสามารถตรวจสอบการทำงาน ใช้กลไกสภาในการตั้งคำถามอภิปราย สะท้อนปัญหาให้รัฐบาลได้ เราช่วยแก้ปัญหาได้บางเรื่อง แต่หลายๆเรื่องเราทำไม่ได้ ด้วยอำนาจที่มีอยู่วันนี้ ทุกครั้งที่ตนลงมาพบประชาชนแล้วได้รับฟังปัญหาที่เราไม่มีอำนาจแก้ไข ตนทั้งโกรธ โมโห น้อยเนื้อต่ำใจ ว่าทำไมเราไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้

“สิ่งที่อยากทำความเข้าใจ คือในระยะกลางและระยะยาวแล้ว เราไม่ได้ตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับทุกคน เหตุผลที่เราตั้งพรรคขึ้นมาส่วนหนึ่งก็เพราะความเจ็บปวด เพราะเราทนไม่ไหวกับสิ่งที่รัฐทำกับพี่น้องคนจนในตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ปัญหาในประเทศไทยที่มากมายขนาดนี้ บวกกับอำนาจที่รวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพ ที่ทุกเรื่องต้องวิ่งผ่านกระทรวงต่างๆแล้วคนมีอำนาจสั่งทุกกระทรวงให้ไปทางเดียวกันได้คนเดียวคือนายกรัฐมนตรี ต่อให้มีนายกรัฐมนตรี 10 คนก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นใจกลางของปัญหาจริงๆในวันนี้ก็คือระบบราชการรวมศูนย์ ที่ทุกเรื่องต้องวิ่งเข้าไปขออนุมัติที่กรุงเทพ ที่อำนาจไม่ได้อยู่ในมือประชาชนจริงๆ ดังนั้น สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ต้องการ จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาให้ทุกคนไปทีละเรื่อง แต่เราต้องการเอาอำนาจออกจากส่วนกลางกลับมาให้ท้องถิ่น ปัญหาความต้องการต่างๆต้องจบที่ท้องถิ่น ให้คนท้องถิ่นตัดสินใจ นี่คือวิธีทางเดียวที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้าได้” นายธนาธรกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image