“จิรายุ” เผยฝ่ายค้านทำหน้าที่เต็มที่ เน้นตรวจสอบรัฐบาล-การทุจริต ฝากถามนายกฯ เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ บอกฝั่ง รบ.ย้ายมุ้ง ไม่เรียกงูเห่า แต่เป็นฮีโร่ ขณะที่ “เพื่อไทย” ไม่ติดใจปม ส.ส.สุรินทร์ รับคณะ “บิ๊กตู่” ชี้ไปสะท้อนปัญหา
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 21 สิงหาคม ที่รัฐสภา ตัวแทนวิปฝ่ายค้าน นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. และนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงก่อนการประชุมสภา
โดยนายจิรายุกล่าวว่า วันนี้วิปฝ่ายค้านได้เข้าร่วมในพิธีโปรดเกล้าฯ ตั้งผู้นำฝ่ายค้าน คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. เป็นที่เรียบร้อย เราในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่าจะทำงานอย่างแข็งขัน ส่วนแนวความคิดของแต่ละส.ส.ท่าน ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่เชื่อว่าจะมีความเห็นเดียวกันว่า เสียงที่ปริ่มน้ำของรัฐบาล เราจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น ซึ่งวันนี้มีวาระสำคัญคือ การยื่นถามกระทู้สด 3 เรื่อง คือ 1.เรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำในขณะนี้ 2.การรายงานผลปฏิบัติการของบริษัท ไทยพีบีเอส ที่ใช้งบประมาณแผ่นดินประมาณ 2,000 ล้านบาท และ 3.การเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลยังนิ่งเฉยอยู่นั้นเพราะรออะไร ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่แล้วเสร็จ ครั้งนี้ทางวิปฝ่ายค้านได้กระชับว่า ฝ่ายค้านจะต้องรักษาองค์ประชุม เพราะจะต้องมีการโหวตรายมาตรา
เมื่อถามว่า จะมีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายจิรายุกล่าวว่า วิปฝ่ายค้านได้พูดคุยกันว่ายังระบุว่าจะสรุปออกมาเป็นผลอย่างไร ถ้ามีผลออกมาว่า ต้องตั้ง ส.ส.ร. จะแก้เป็นรายมาตรา หรือแก้ทั้งฉบับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหาเหตุและผล ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ฝ่ายค้านจะได้ประโยชน์ เพราะดูได้จากรัฐบาลมีปัญหาจากรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลโดยตรง ในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน เราดูที่ตัวของพรรค ส่วนสมาชิกของแต่ละพรรคจะออกไปหรือไม่ เท่าที่ตนได้ยินมา คนที่เข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาลก็จะเข้ามาร่วมกับฝ่ายค้าน ไม่ใช่เฉพาะมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เพียงคนเดียว เนื่องจากเขาอึดอัด ทั้งนี้หากเราเสียไป 2 คน แต่ได้กลับมา 6 คน ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และเรามีการพูดคุยกันว่า หากไม่อยากเปิดตัว แต่เมื่อถึงเวลาโหวตยกมือโหวตให้ฝ่ายค้านก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้
เมื่อถามว่า จะเกิดปรากฏการณ์งูเห่าเกิดขึ้นหรือไม่ นายจิรายุกล่าวว่า ตนมองว่าคำว่า งูเห่า ใช้ตอนที่โหวตเลือกนายกฯ ตอนนี้จะเป็นฮีโร่ของฝ่ายค้านมากกว่า สำหรับผู้แทนของฝั่งรัฐบาล หากเป็นเรื่องของการทุจริต การติดตามตรวจสอบรัฐบาล หากมาโหวตเห็นด้วยกับฝ่ายค้าน หมายความว่า รักษาชาติ รักษาบ้านเมือง ถือว่าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของพรรคฝ่ายค้านเลยทีเดียว
ด้านนายสมคิดกล่าวถึงกรณีนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรค พท. พร้อม ส.ส.สุรินทร์อีก 2 คน ไปให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะลงพื้นที่ พร้อมกับกล่าวพาดพิงการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เชื่อมโยงไปถึงการจะเปลี่ยนขั้วทางการเมืองว่า เราไม่ได้มองไกลไปขนาดนั้น นายครูมานิตย์ และส.ส.สุรินทร์ ที่ไปต่างยืนยัน จะไม่ย้ายออกไปไหน การที่ไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจว่า คงเป็นเรื่องของพื้นที่มากกว่า รวมทั้งนายครูมานิตย์ เป็นคนมีเพื่อนเยอะ เมื่อนายกฯ ลงไป คงอยากไปสะท้อนปัญหาเรื่องภัยแล้ง และเรื่องปัญหาอื่นๆ ของชาวบ้าน ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย 2-3 คนที่ไปต้อนรับนายกฯ ไม่มีปัญหาอะไร ในวันประชุมพรรค ส.ส.ไม่ได้พูดกันในเรื่องนี้ ผู้ใหญ่ในพรรคก็ยังขำๆ ไม่มีการเรียกไปว่ากล่าวตักเตือน เพื่อน ส.ส.ในพรรคไม่ได้ติดใจอะไร
