“อุตตม” เผย โครงการยุครบ.ประยุทธ์ เน้นร่วมลงทุนกับเอกชน มั่นใจ เติบโตยั่งยืน

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง แสดงความเห็นเรื่องแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยระบุว่า บทบาทการพัฒนาประเทศไทยของกระทรวงการคลัง

วานนี้ (24 ส.ค.62) ผมได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาพิเศษ “นิด้ากับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” บนเวที “Proud to be NIDA” ร่วมกับ ท่านชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ท่านอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และท่านสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษาฯ ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ผมได้กล่าวถึง “การมองไปข้างหน้า” ต่อจากนี้ ประเทศไทยจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างไร โดยอยากให้ทุกคนร่วมกัน ขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศ รวมไปถึงภาคประชาชน ภาคสังคมด้วย

ทำอย่างไรเราจึงปรับเศรษฐกิจไทย ให้เป็นเศรษฐกิจที่มีพลัง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ด้วยบุคคลากรที่มีพร้อมทั้งทักษะการทำงานและทักษะทางสังคม มีธรรมาภิบาล คนที่จะเข้าใจ เข้าถึง และรู้เท่าทันด้านการใช้เทคโนโลยี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องการการเปลี่ยนแปลง หากเรายังไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ สิ่งที่เราต้องการแก้ไขคือ “ความเหลื่อมล้ำ” และ “การกระจุกตัวของความเจริญ” จะแก้ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราไม่มีกำลัง เศรษฐกิจไม่มีพลัง ไม่มีทุนออมที่จะไปแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงการคลังจะทำต่อจากนี้เป็นเป้าหมายหลัก

Advertisement

ประการแรกคือ ดูแลงบประมาณการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีคุณภาพ หมายความว่า นอกจากดูแลเรื่องเม็ดเงินลงทุนแล้ว จะต้องดูแลเรื่องการบริหารโครงการอย่างยั่งยืน ทั้งการตรวจสอบดูแล การประเมินผลวัดคุณภาพ ในส่วนที่รัฐลงทุนเอง หรือมีเอกชนร่วมทุน โดยมีเป้าหมายว่าโครงการที่ลงทุนจะต้องเป็นประโยชน์ทั่วถึงกับคนไทยทุกคน

ประการที่ 2 คือการลงทุนเชิงสังคม ทั้งด้านประชาชน การลงทุนในพื้นที่ท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่สำคัญประการหนึ่ง ที่ผ่านมาเป็นหน้าที่หลักของรัฐบาล ที่จะต้องจัดสรรงบประมาณลงไปยังพื้นที่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง แต่วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่กำลังจะเกิดโครงการในเชิงสังคมที่รัฐจะร่วมลงทุนกับเอกชน(PPP) ซึ่งเป็นโครงการในเชิงสุขภาพ เป็นโครงการศูนย์การแพทย์สมัยใหม่ และโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็น 2 โครงการแรกที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ PPP ในสัปดาห์หน้า

ประการที่ 3 คือ การลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการศึกษา เป็นการสร้างโครงข่ายดิจิทัลของประเทศ ที่เป็นประโยชน์ด้านการเชื่อมโยงเศรษฐกิจของคนไทย เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน เราจำเป็นต้องเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อเติบโตไปในทิศทางที่ยั่งยืนร่วมกัน

นี่คือสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการไปพร้อมๆ กับการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของคนไทย โดยประชาชนจะต้องมีสวัสดิการที่ควรจะได้รับ เพื่อความพร้อมในการสร้างพลังขับเคลื่อนประเทศ และหน้าที่ของกระทรวงการคลังคือ ดูแลส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคตอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งการดูแลและพัฒนาตั้งแต่ระดับฐานราก สนับสนุนวางโครงสร้างการลงทุนในท้องถิ่น เช่น เกษตรอุตสาหกรรม การให้ความรู้ด้านทักษะการเงิน การปรับโครงสร้างด้านการเงิน คนที่ล้มแล้วจะต้องช่วยให้ลุกขึ้นมาได้

จะเห็นได้ว่านโยบายที่สำคัญของเรานั้นไม่ใช่เพียงสร้างเศรษฐกิจ แต่เรากำลังสร้างคน สร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image