“เพื่อไทย” กังวล “ไพบูลย์” ยุบพรรค ไม่ตรงเจตนารมย์รธน.-ความต้องการของปชช.

“เพื่อไทย” กังวล ปม “ไพบูลย์” ยุบ “พรรคประชาชนปฏิรูป” ไม่ตรงเจตนารมย์รธน.-ความต้องการของปชช. “สุทิน” ซัดแรง เป็นการลต.ที่ฉ้อฉล

เมื่อเวลา 15.35 น. วันที่ 26 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสามารถ แก้วมีชัย รองหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย และรองหัวหน้าพรรคพท. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท.

โดยนายชูศักดิ์ กล่าวว่า กรณีการเสนอเลิกพรรคประชาชนปฏิรูปของนายไพบูลย์ นิติตะวันนั้น เราพิจารณากันเห็นว่ามีการเขียนเปิดช่องเช่นนี้ไว้ในกฎหมายจริง 2 วิธี คือ เลิกโดยคำสั่งศาล และการขอเลิกเอง บังเอิญนั้นกฎหมายเขียนต่อไปว่า พรรคใดเลิกพรรคการเมืองให้ถือว่าถูกยุบตามกฎหมาย วึ่งหากพรรคนั้นมีส.ส.ในสังกัดพรรค ให้นักการเมืองหาสังกัดใหม่ได้ แต่แม้กฎหมายจะเขียนไว้เช่นนี้ แต่เจตนารมย์ของกฎหมายเป็นเช่นนี้หรือ เพราะในการเลือกตั้งประชาชนที่ไปลงคะแนนได้ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองนั้นๆเข้ามาทำหน้าที่ แต่พรรคการเมืองนั้นกลับมายุบตัวเอง แล้วไปหาสังกัดใหม่ สิ่งที่เราวิตกกังวลคือ เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญเป็นเช่นนั้นหรีอ เพราะไม่ตรงกับเจนารมย์ของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ กฎหมายยังห้ามไม่ให้มีการควบรวมพรรคการเมืองในขณะที่มีสมัยประชุมสภาด้วย ดังนั้น การกระทำเช่นนี้ของพรรคปชช. จะเข้าเงื่อนไขนี้หรือไม่

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคพท.เห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่ในขณะนี้น่าจะไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ และความต้องการของพี่น้องประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ กกต. จะเป็นผู้วินิจฉัยในกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ สิ่งที่เราวิตกคือ อนาคตจะมีพรรคเล็กพรรคน้อยยุบตัวเองเพื่อไปหาสังกัดใหม่ แต่เหนือสิ่งอทื่นใดเราแคร์ความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคเหล่านั้นมา

Advertisement

เมื่อถามว่า หากกกต.ยอมให้มีการยุบพรรคในกรณีนี้ จะมีการเอาผิดกกต.หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า กฎหมายให้มีการยุบพรรคในลักษณะนี้เพื่อคุ้มครองส.ส. แต่เราคงต้องมองถึงเรื่อว่ามีส่วนได้เสียอะไรหรือไม่ด้วย ทั้งนี้ คะแนนพรรคเล็กที่ได้มา 5-6 หมื่น แสดงว่าประชาชนเขาตัดสินใจดีแล้วว่าเขาเห็นพรรคนั้นๆสำคัญกว่าพรรคใหญ่ๆที่ได้คะแนนมากกว่า ก็ต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย

ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ในส่วนของตนนอกเหนือมุมมองในด้านกฎหมายแล้ว สำนึกประชาธิปไตยเป็นเรื่องใหญ่ เราแสดงตัวตนให้ประชาชนได้เลือกเรา แต่เมื่อประชาชเลือกเราแล้ว เรากลับกลายเป็นคนอื่น แบบนี้ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลมาก และเมื่อไปตรวจสอบแล้วจะเห็นว่ามีหลายพรรคการเมืองหาเสียง และแสดงจุดยืนว่าจะไม่อยู่กับพรรคที่สืบทอดอำนาจเผด้จการ แต่ท้ายที่สุกดก็ไปเข้าร่วมกับเขา ถือเป็นการนำคะแนนของประชาชนไปใช้ในทางที่ผิด การนำคะแนนไปยกให้พรรคอื่นก็เป็นที่น่าเสียดาย

ขณะที่นายสามารถ กล่าวว่า การจัดทำกฎหมายทั้งในส่วนของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบฯ ที่ผ่านมามีปัญหาสับสนตลอด โดยเฉพาะกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่สร้างปัญหาอย่างมาก ส่วนหนึ่งที่พรรคเล็กมาลงสมัครรับเลือกตั้งต้องมีการจัดทำตัวแทนประจำจังหวัด และอื่นๆมากายซึ่งเป็นภาระ ดังนั้น จึงต้องโทษคนออกแบบกฎหมายแทนที่จะส่งเสริมให้พรรคการเมืองเติบโต แต่กลับออกแบบหลุมพรางให้พรรคเล็กหาช่องทางเอาตัวรอดด้วยกฎหมายที่สุกเอาเผากิน และไม่รอบคอบ ดังนั้น ต้องสังคายนารัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูก เป็นสิ่งที่ 7 พรรคการเมืองกำลังรณรงค์ให้มีการแก้ไขอยู่ในขณะนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image